Language
 - 
Afrikaans
 - 
af
Albanian
 - 
sq
Amharic
 - 
am
Arabic
 - 
ar
Armenian
 - 
hy
Azerbaijani
 - 
az
Basque
 - 
eu
Belarusian
 - 
be
Bengali
 - 
bn
Bosnian
 - 
bs
Bulgarian
 - 
bg
Catalan
 - 
ca
Cebuano
 - 
ceb
Chichewa
 - 
ny
Chinese (Simplified)
 - 
zh-CN
Chinese (Traditional)
 - 
zh-TW
Corsican
 - 
co
Croatian
 - 
hr
Czech
 - 
cs
Danish
 - 
da
Dutch
 - 
nl
English
 - 
en
Esperanto
 - 
eo
Estonian
 - 
et
Filipino
 - 
tl
Finnish
 - 
fi
French
 - 
fr
Frisian
 - 
fy
Galician
 - 
gl
Georgian
 - 
ka
German
 - 
de
Greek
 - 
el
Gujarati
 - 
gu
Haitian Creole
 - 
ht
Hausa
 - 
ha
Hawaiian
 - 
haw
Hebrew
 - 
iw
Hindi
 - 
hi
Hmong
 - 
hmn
Hungarian
 - 
hu
Icelandic
 - 
is
Igbo
 - 
ig
Indonesian
 - 
id
Irish
 - 
ga
Italian
 - 
it
Japanese
 - 
ja
Javanese
 - 
jw
Kannada
 - 
kn
Kazakh
 - 
kk
Khmer
 - 
km
Korean
 - 
ko
Kurdish (Kurmanji)
 - 
ku
Kyrgyz
 - 
ky
Lao
 - 
lo
Latin
 - 
la
Latvian
 - 
lv
Lithuanian
 - 
lt
Luxembourgish
 - 
lb
Macedonian
 - 
mk
Malagasy
 - 
mg
Malay
 - 
ms
Malayalam
 - 
ml
Maltese
 - 
mt
Maori
 - 
mi
Marathi
 - 
mr
Mongolian
 - 
mn
Myanmar (Burmese)
 - 
my
Nepali
 - 
ne
Norwegian
 - 
no
Pashto
 - 
ps
Persian
 - 
fa
Polish
 - 
pl
Portuguese
 - 
pt
Punjabi
 - 
pa
Romanian
 - 
ro
Russian
 - 
ru
Samoan
 - 
sm
Scots Gaelic
 - 
gd
Serbian
 - 
sr
Sesotho
 - 
st
Shona
 - 
sn
Sindhi
 - 
sd
Sinhala
 - 
si
Slovak
 - 
sk
Slovenian
 - 
sl
Somali
 - 
so
Spanish
 - 
es
Sundanese
 - 
su
Swahili
 - 
sw
Swedish
 - 
sv
Tajik
 - 
tg
Tamil
 - 
ta
Telugu
 - 
te
Thai
 - 
th
Turkish
 - 
tr
Ukrainian
 - 
uk
Urdu
 - 
ur
Uzbek
 - 
uz
Vietnamese
 - 
vi
Welsh
 - 
cy
Xhosa
 - 
xh
Yiddish
 - 
yi
Yoruba
 - 
yo
Zulu
 - 
zu

โลกียภูมิและสังสารวัฏ 31 ภูมิ: ภูมิและบุพกรรม

โลกียภูมิและโลกุตรภูมิ

โลกียภูมิและสังสารวัฏ 31 ภูมิ: ภูมิและบุพกรรม

โลกียภูมิและโลกุตรภูมิ

โลกียภูมิและสังสารวัฏ 31 ภูมิ: ภูมิและบุพกรรม

5.1%20File/5.1d-01.JPG

โลกียภูมิ หรือสังสารวัฏ 31 ภูมิ  เป็นภูมิที่จะต้องมีการเวียนว่ายตายเกิด มีทั้งหมด 31 ภูมิ  แบ่งออกเป็น

  1. โลกเบื้องต่ำ  4  ชั้น  (อบายภูมิ 4)
  2. โลกเบื้องกลาง  7  ชั้น  (มนุษยภูมิ 1 และเทวภูมิ 6)
  3. โลกเบื้องสูง  20  ชั้น  (พรหมโลก 20)
  1. โลกเบื้องต่ำ 4 ชั้น  ประกอบด้วย
  1. ดิรัจฉานภูมิ  (โลกเดรัจฉานอยู่ในโลกมนุษย์)
  2. เปตติวิสยภูมิ  (โลกเปรต)
  3. อสุรกายภูมิ  (โลกอสุรกาย)
  4. นรกภูมิ  ประกอบด้วย
  • มหานรก  8 ขุม
  • อุสสทนรก  128 ขุม
  • ยมโลกนรก 320 ขุม
  • โลกันตร์นรก  1 ขุม
  1. โลกเบื้องกลาง  7  ชั้น  ประกอบด้วย
  1. มนุษยภูมิ 1 
  2. เทวภูมิ  6
  • จาตุมหาราชิกา  (สวรรค์ชั้นที่ 1)
  • ดาวดึงส์ หรือดาวดึงสา  (สวรรค์ชั้นที่ 2)
  • ยามาภูมิ    (สวรรค์ชั้นที่ 3)
  • ดุสิตาภูมิ    (สวรรค์ชั้นที่ 4)
  • นิมมานรดีเทวภูมิ  (สวรรค์ชั้นที่ 5)
  • ปรนิมมิตวสี วัตตีเทวภูมิ  (สวรรค์ชั้นที่ 6)
  1. โลกเบื้องสูง  20 ชั้น  ประกอบด้วย
  2. รูปพรหม 16

พรหมปาริสัชชาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 1

พรหมปุโรหิตาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 2

มหาพรหมาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 3

ปริตตาภาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 4

อัปปมาณาภาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 5

อาภัสสราภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 6

ปริตตสุภาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 7

อัปปมาณสุภาภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 8

สุภกิณหาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 9

เวหัปผลาภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 10

อสัญญสัตตาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 11

อวิหาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 12

อตัปปาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 13

สุทัสสาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 14

สุทัสสีสุทธาวาสภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 15

อกนิฎฐาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 16

  1. อรูปพรหม 4

อากาสานัญจายตนภูมิ พรมโลก ชั้นที่ 17

วิญญาณัญจายตนภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 18

อากิญจัญญายตนภูมิ พรมโลก ชั้นที่ 19

เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 20

สังสารวัฏ  31 ภูมิ และบุพกรรมในชั้นต่างๆ

โลกเบื้องต่ำ 4 ชั้น (อบายภูมิ  4)
ภูมิบุพกรรม
ดิรัจฉานภูมิ (โลกเดรัจฉานอยู่ในโลกมนุษย์)บุพกรรม เป็นมนุษย์จิตไม่บริสุทธิ์ ประพฤติอกุศลกรรมอันหยาบช้าลามกทั้งหลายหรือเพราะอำนาจของเศษบาปอกุศลกรรมที่ตนทำไว้ให้ผล หรือเป็นเพราะเมื่อเป็นมนุษย์ไม่ได้ก่อกรรมทำชั่วอะไร แต่เวลาใกล้จะตายจิตประกอบด้วยโมหะ หลงผิด ขาดสติ ไม่มีสรณะเป็นที่พึ่งจะให้ยึดมั่นคง 
เปตติวิสยภูมิ (โลกเปรต) บุพกรรม ประพฤติอกุศลกรรมบท 10 ประการ เมื่อขาดใจตายจากมนุษยโลก หากอกุศลกรรมสามารถนำไปสู่นิรยภูมิได้ ต้องไปเสวยทุกขโทษในนรกก่อน พอสิ้นกรรมจากนรกแล้ว เศษบาปยังมีก็ไปเสวยผลกรรมเป็นเปรตต่อภายหลังหรือมีอกุศลกรรมที่เกิดจากโลภะนำมาเกิด 
อสุรกายภูมิ (โลกอสุรกาย)อายุและบุพกรรม เช่นเดียวกันกับในโลกเปรต
นรกภูมิ  
มหานรก 8 ขุม 
– นรกขุมที่ 1 สัญชีวนรก ผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ มนุษย์ที่มีจิตไม่บริสุทธิ์ หยาบช้าลามก ใจสกปรก ก่อกรรมทำเข็ญ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เบียดเบียนผู้อื่นให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนเป็นนิจ
– นรกขุมที่ 2 กาฬสุตตนรก ผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ 
– จับเอาสัตว์สี่เท้ามาทรมานให้ได้รับความลำบาก 
– ทำร้ายร่างกายบุพการี โดยมิได้เจตนา เช่น เมาสุราจนขาดสติ เผลอตัวทำร้ายบิดามารดาตนเอง 
– ฆ่าสัตว์ต้องห้าม 3 ชนิด คือ เต่า หมี เสือ โดยไม่เจตนา 
– นรกขุมที่ 3 สังฆาฏนรก ผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ ผู้ที่ฆ่าคนโดยไม่เจตนา เมาแล้วขับรถชนคนตาย ทำร้ายร่างกาย ทุบตีผู้มีพระคุณ ครูบาอาจารย์ พระอรหันต์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทำร้ายผู้ที่ประกอบคุณงามความดีเพื่อสังคมส่วนรวมเป็นที่ประจักษ์จนได้รับความเคารพนับถือดังเช่นมีผู้มีพระคุณ เจตนาฆ่าสัตว์ต้องห้าม 3 ชนิด ได้แก่ เต่า หมี เสือ
– นรกขุมที่ 4 โรรุวนรกผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ 
– จับเอาสัตว์เป็นๆมาเผาไฟหรือปิ้งเพื่อกินเป็นอาหาร 
– ผู้พิพากษาคดีความอย่างไม่ยุติธรรม 
-ผู้ที่โลภเจตนาบุกรุกที่ดิน บ้านเรือกสวนไร่นาของผู้อื่นเอามาเป็นของตน 
– หญิงคบชู้แล้ว ให้ชู้ฆ่าสามีให้ตาย 
-ผู้ที่ฉ้อโกง เบียดบังทรัพย์สมบัติเอามาเป็นของตน 
-ฆ่าผู้มีพระคุณ 
-ฆ่าคนโดยเจตนาตอนรบกันในฐานะผู้บุกรุกราน 
– นรกขุมที่ 5 มหาโรรุวนรก ผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ 
-โหดร้าย ตัดศีรษะสัตว์และมนุษย์ 
– ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตด้วยอำนาจของความโกรธ 
-โจรกรรมสิ่งของ -ทำชั่วด้วยความอาฆาต 
-ปล้นขโมยสิ่งของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ของพ่อแม่ ของพระอุปัชฌาย์อาจารย์
– นรกขุมที่ 6 ตาปนรก ผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ 
– ผู้ที่ฆ่าสัตว์โดยทิ่มแทงให้ตาย 
– ฆ่าคนโดยเจตนา เป็นผู้สั่งฆ่าจงใจตัดตอนสังสารวัฏของผู้อื่น 
– การฆ่าพลีชีพ 
– เผาบ้าน กุฎิ โบสถ์ วิหาร ทำลายเจดีย์ 
– นรกขุมที่ 7 มหาตาปนนรก ผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ 
-ผู้ที่ฆ่าบุพการี 
-ผู้สั่งฆ่าคนหมู่มากที่บริสุทธิ์โดยเจตนา 
-ผู้ที่ปองร้าย ลอบทำร้าย มีเจตนาต่อต้านพระพุทธเจ้า 
– นรกขุมที่ 8 อเวจีนรก ผู้ที่จะต้องมาใช้กรรมในนรกขุมนี้ 
– ฆ่ามารดาบิดาของตัวเอง 
– ฆ่าพระอรหันต์ ให้ตาย หรือใช้ให้คนอื่นฆ่า 
– ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต 
– ทำสังฆเภท คือ ยุยงให้สงฆ์แตกแยกกัน 
– ผู้ที่ติเตียนพระอริยบุคคลพระสงฆ์ที่มีคุณแก่ตน 
– ผู้ที่ทำลายพระพุทธรูป พุทธเจดีย์ 
 
อุสสทนรก 128 ขุม 
ยมโลกนรก 320 ขุม 
– โลหกุมภีนรกบุพกรรม เช่น จับสัตว์เป็นๆมาต้มในน้ำร้อนแล้วเอามากินเป็นอาหาร
– สิมพลีนรก บุพกรรม เช่น คบชู้สู่สาว ผิดศีลธรรมประเพณี ชายเป็นชู้กับภรรยาของผู้อื่น หญิงเป็นชู้สามีของผู้อื่น หรือชายหญิงที่มีภรรยาหรือสามี ประพฤตินอกใจไปสู่หาเป็นชู้กับผู้อื่น มักมากในกามคุณ
– อสินขะนรก บุพกรรม เช่น เมื่อเป็นมนุษย์ชอบลักเล็กขโมยน้อย ขโมยของในสถานที่สาธารณะและของที่เขาถวายแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
– ตามโพทะนรก บุพกรรม ด้วยผลกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อนๆ เป็นคนใจอ่อน มัวเมาประมาท ดื่มกินสุราเมรัย แสดงอาการคล้ายคนบ้าเป็นเนืองนิจ
– อโยคุฬะนรก บุพกรรม เช่น แสดงตนว่าเป็นคนใจบุญใจกุศล เรี่ยไรทรัพย์ว่าจะนำไปทำบุญสร้างกุศล แต่กลับยักยอกเงินทำบุญของผู้อื่นมาเป็นของตน การกุศลก็ทำบ้างไม่ทำบ้างตามที่อ้างไว้ หลอกลวงผู้อื่น
– ปิสสกปัพพตะนรก บุพกรรม เช่น เคยเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประพฤติตนเป็นคนอันธพาล กดขี่ข่มเหงราษฎร ทำร้ายร่างกาย เอาทรัพย์เขามาให้เกินพิกัดอัตราที่กฎหมายกำหนด ไม่มีความกรุณาแก่คนทั้งหลาย
– ธุสะนรก บุพกรรม เช่น คดโกง ไม่มีความซื่อสัตย์ ปนปลอมแปลงอาหารและเครื่องใช้แล้วหลอกขายผู้อื่น ได้ทรัพย์สินเงินทองมาโดยมิชอบ
– สีตโลสิตะนรก บุพกรรม เช่น จับสัตว์เป็นๆโยนลงไปในบ่อ ในเหว ในสระน้ำ หรือมัดสัตว์เป็นๆทิ้งน้ำให้จมน้ำตาย หรือทำให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้รับความทุกข์ และตายเพราะน้ำ
– สุนขะนรกบุพกรรม คือ ด่าว่าบิดามารดา ปู่ย่าตายาย พี่ชายพี่สาวและญาติทั้งหลายไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ ตลอดจนพระภิกษุสามเณร
– ยันตปาสาณะนรก บุพกรรม เช่น เป็นหญิงชายใจบาปหยาบช้า ด่าตีคู่ครองด้วยความโกรธ แล้วหันเหประพฤตินอกใจไปคบชู้เป็นสามีภรรยากับคนอื่นตามใจชอบ
 
โลกันตร์นรก 1 ขุมผลกรรมชั่ว เช่น ทรมานประทุษร้ายต่อบิดามารดา และผู้ทรงศีล ทรงธรรม หรือทำปาณาติบาตเป็นอาจิณ ฆ่าตัวตายเป็นต้น
โลกเบื้องกลาง 7 ชั้น 
ภูมิบุพกรรม
มนุษย์ภูมิ 1 แบ่งเป็น 4 จำพวก บุพกรรม กรรมของมนุษย์ที่ทำในกาลก่อนส่งผลให้ปฎิปทาต่างกัน เช่น บางคนเป็นคนดี บางคนบ้า บางคนรวย บางคนจน บางคนมีปัญญา บางคนเขลา ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัยต่างๆ 
1 ผู้มืดมาแล้วมืดไป 
2 ผู้ที่มืดมาแล้วสว่างไป  
3 ผู้สว่างมาแล้วมืดไป  
4 ผู้สว่างมาแล้วสว่างไป  
 
เทวภูมิ 6 
– จาตุมหาราชิกา (สวรรค์ ชั้น ที่ 1)เส้นทางไปสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เมื่อเป็นมนุษย์ชอบทำความดี สันโดษ ยินดีแต่ของๆ ตนชักชวนให้ผู้อื่นประกอบการกุศล ชอบให้ทานและหวังผลบุญแห่งการให้ทานนั้น มุ่งการสั่งสมให้ทาน ด้วยคิดว่าเราตายไปแล้วจักได้เสวยผลแห่งทานนั้น และเป็นผู้มีศีล
– ดาวดึงส์ หรือ ดาวดึงสา (สวรรค์ ชั้นที่ 2)ทางไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทำบุญกุศล เป็นคนดีมีศีลธรรม ไม่ทำกรรมอันหยาบช้าลามก ทำทานโดยไม่หวังผลบุญหรือผลแห่งทานที่ได้ทำไปนั้น ไม่ได้ให้ทานด้วยความคิดว่า “ตายแล้วเราจักได้เสวยผลทานนี้” แต่ให้ทานด้วยความคิดว่า “การให้ทานเป็นการกระทำดี”
– ยามาภูมิ  (สวรรค์ ชั้นที่ 3)ทางไปสวรรค์ชั้นยามา ต้องพยายามสร้างบุญ ต้องเป็นผู้หนักแน่นในการบำเพ็ญบุญ ผู้ที่ทำทานโดยไม่คิดว่าเป็นการทำดี แต่คิดว่าบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ได้เคยทำบุญทำทานมาโดยตลอด เราก็ควรได้ทำตามประเพณีที่ท่านเคยทำมา
– ดุสิตาภูมิ  (สวรรค์ ชั้นที่ 4) ทางไปสวรรค์ชั้นดุสิต ผู้ที่สร้างบุญกุศล ชอบฟังพระธรรมเทศนาให้ทาน โดยไม่คิดว่าทำตามบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เคยทำมาจนเป็นประเพณีแต่ให้ทานโดยคิดว่าเราหุงหากิน สมณพราหมณ์เหล่านั้นไม่ได้หุงหากิน ถ้าเราไม่ให้ทานก็เป็นสิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง
– นิมมานรดีเทวภูมิ  (สวรรค์ ชั้นที่ 5)ทางไปสวรรค์ชั้นนิมมานรดี ต้องเป็นผู้ที่เพียรบริจาคทานอย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีจิตใจบริสุทธิ์ รักษาศีลมิขาดตกบกพร่อง และเป็นผู้ที่อุตส่าห์ก่อสร้างกองบุญกุศลให้ยิ่งใหญ่ อบรมจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ให้สกปรกลามกมีมลทิน มีใจสมบูรณ์ด้วยศีล ผู้ที่ทำทานโดยไม่คิดว่าเราหุงหากิน แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น ไม่ได้หุงหากิน เราจะไม่ให้ทานก็ไม่บังควรอย่างยิ่ง แต่ได้คิดว่าจะให้ทานเหมือนอย่างฤาษีทั้งหลายที่ได้กระทำมาในอดีต
– ปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิ (สวรรค์ ชั้นที่ 6)ทางไปสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ผู้ที่อุตส่าห์ก่อสร้างกองการกุศลให้ยิ่งใหญ่ อบรมจิตใจให้สูงส่งด้วยคุณธรรม บำเพ็ญทานและรักษาศีลอย่างจริงจังด้วยศรัทธาอย่างยิ่งยวดและถูกต้อง ผลวิบากแห่งทานและศีลอันสูงยิ่งเท่านั้นจึงจะบันดาลให้ไปอุบัติในสวรรค์ชั้นนี้ได้ ผู้ที่ทำทานโดยไม่หวังผลในทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลแห่งทาน และไม่ได้คิดว่าทำทานตามฤาษีในอดีตที่เคยทำมา แต่คิดว่าทำทานเพื่อให้จิตเกิดความปลาบปลื้มปิติในบุญที่ทำ
โลกเบื้องสูง 20 ชั้น
ภูมิบุพกรรม
รูปพรหม 16 
– พรหมปาริสัชชาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 1บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาสำเร็จปฐมฌานได้อย่างสามัญ
– พรหมปุโรหิตาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 2บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาสำเร็จได้ปฐมฌานอย่างปานกลาง
– มหาพรหมาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 3บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาสำเร็จปฐมฌานได้อย่างประณีต
– ปริตตาภาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 4บุพกรรม ผู้ที่จะมาบังเกิดในชั้นนี้ได้ ต้องสำเร็จทุติยฌานได้อย่างสามัญ
– อัปปมาณาภาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 5บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาสำเร็จทุติยฌานได้อย่างปานกลาง
– อาภัสสราภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 6บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาสำเร็จทุติยฌานได้อย่างประณีต
– ปริตตสุภาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 7บุพกรรม ผู้ที่จะมาอุบัติบังเกิดในชั้นนี้ได้ต้องสำเร็จตติยฌาน ได้อย่างสามัญ
– อัปปมาณสุภาภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 8บุพกรรม ผู้ที่จะมาบังเกิดในชั้นนี้ได้ ต้องสำเร็จตติยฌานได้อย่างปานกลาง
– สุภกิณหาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 9บุพกรรม ผู้ที่จะมาอุบัติบังเกิดในชั้นนี้ได้ ต้องสำเร็จตติยฌานได้อย่างประณีต
– เวหัปผลาภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 10บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาสำเร็จจตุตถฌาน
– อสัญญสัตตาภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 11บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาได้จตุตถฌาน และเป็นผู้มีสัญญาวิราคภาวนา
– อวิหาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 12บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาได้จตุตถฌานและเจริญวิปัสสนาภาวนาจนสำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคลโดยมีสัทธินทรีย์แก่กล้า
– อตัปปาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 13บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาได้จตุตถฌาน และเจริญวิปัสสนาภาวนาจนสำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคล โดยมีวิริยินทรีย์แก่กล้า
– สุทัสสาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 14บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนาได้จตุตถฌานและเจริญวิปัสสนาภาวนาจนสำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคลโดยมีสตินทรีย์แก่กล้า
– สุทัสสีสุทธาวาสภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 15บุพกรรม ผุ้เจริญสมถภาวนา ได้จตุตถฌาน และเจริญวิปัสสนาภาวนาจนสำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคล โดยมีสมาธินทรีย์แก่กล้า
– อกนิฎฐาสุทธาวาสภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 16บุพกรรม ผู้เจริญสมถภาวนา ได้จตุตถฌาน และ เจริญวิปัสสนาภาวนาจนสำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคล โดยมีปัญญินทรีย์แก่กล้า
อรูปพรหม 4 
– อากาสานัญจายตนภูมิ พรมโลก ชั้นที่ 17บุพกรรม โยคีฤาษี ผู้ได้จตุตถฌานแล้ว และสำเร็จอากาสานัญจายตนฌาน
– วิญญาณัญจายตนภูมิ พรหมโลกชั้นที่ 18บุพกรรม โยคีฤาษีผู้ได้อากาสานัญจายตนฌานและสำเร็จวิญญาณัญจายตนฌาน
– อากิญจัญญายตนภูมิ พรมโลก ชั้นที่ 19บุพกรรม โยคีฤาษี ผู้ได้วิญญาณัญจายตนฌาน และสำเร็จอากิญจัญญายตนฌาน
– เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ พรหมโลก ชั้นที่ 20บุพกรรม โยคีฤาษี ผู้ได้อากิญจัญญายตนฌาน และสำเร็จเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน
 

โลกียภูมิ  31 ภูมิ

สรุปโลกียภูมิ หรือ สังสารวัฏ  31 ภูมิ

หลังจากได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ ขึ้นอยู่กับบุพกรรมที่แต่ละคนเป็นผู้กระทำเอง ตามกฎแห่งกรรม “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”

ถามใจท่านเองว่า ถ้าต้องเกิดใหม่อยากจะเกิดเป็นอะไร? เชื่อได้ว่า ไม่มีใครอยากเกิดในอบายภูมิ 4 เพราะต้องพบความทุกข์ทรมานยิ่งกว่าการเป็นคนหลายเท่า และเป็นความทุกข์ที่ยาวนานมาก กว่าจะมีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง มีการเปรียบเทียบโอกาสจะเกิดเป็นมนุษย์ได้เสมือนงมเข็มในมหาสมุทร หรือเต่าโผล่หัวขึ้นมากลางห่วงเล็กๆ ที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร ดังนั้น คนส่วนใหญ่คงต้องการเกิดในโลกชั้นกลาง (เป็นมนุษย์หรือเทวดา) หรือโลกชั้นสูง (พรหมโลก) จะต้องทำอย่างไร?  โซน 4 (พิเศษ) จะสรุปเรื่องสาระสำคัญของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะวิธีสร้างบุญบารมีเพื่อการบรรลุในโลกียภูมิชั้นกลางขึ้นไป ด้วยหลักธรรมปฏิบัติคือ การให้ทาน รักษาศีล และภาวนา บุพกรรมของแต่ละโลกียภูมิระบุไว้เป็นแนวทางให้ปฏิบัติ

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
post