ฉายา: ผู้บรรเทาความมืด
ความสูง: ๘๐ ศอก
รัศมี: แผ่ซ่านออกไปหมื่นโลกธาตุ
บำเพ็ญบารมี: บำเพ็ญบารมีครบถ้วน
วรรณะ: กษัตริย์
พุทธบิดา: สรณะ
พุทธมารดา: สุนันทาเทวี
พระนคร: สรณะ
ใช้ชีวิตฆราวาส: ๘,๐๐๐ ปี
มเหสี: วิจิโกลี
บุตร: ปุญญวัฑฒนะ
ยานพาหานะที่ใช้ออกบวช: ออกบวชทั้งปราสาท (ลอยไปทั้งปราสาท)
ระยะเวลาการทำความเพียร: ๗ วัน
ต้นไม้ตรัสรู้: ที่โคนต้นติมพชาละ (มะพลับ)
อายุขัย: ๑๐๐,๐๐๐ ปีจึงปรินิพพาน ณ เกสาราม
๑๙. พระธัมมทัสสีพุทธเจ้า
ธรรมทัสสีพุทธวงศ์ที่ ๑๕
ว่าด้วยพระประวัติพระธรรมทัสสีพุทธเจ้า
ในมัณฑกัปนั้นแล มีพระพุทธเจ้าผู้มียศมากพระนามว่าธรรมทัสสีทรงกำจัดความมืดตื้อแล้ว ทรงรุ่งเรืองอย่างยิ่ง ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก แม้ในความที่พระองค์ผู้มีเดชไม่มีเทียบนั้นทรงประกาศพระธรรมจักร ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๑ ได้มีแก่สัตว์แสนโกฏิ ในคราวเมื่อพระพุทธธรรมทัสสีทรงแนะนำสญชัยฤาษี ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๒ ได้มีแก่สัตว์เก้าสิบโกฏิ ในคราวเมื่อท้าวสักกะพร้อมด้วยบริษัทเสด็จเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๓ ได้มีแก่สัตว์แปดสิบโกฏิ แม้พระบรมศาสดาพระองค์นั้น ก็ทรงมีการประชุมพระภิกษุขีณาสพผู้ปราศจากมลทิน ผู้มีจิตสงบ คงที่ ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ เมื่อพระพุทธธรรมทัสสีทรงจำพรรษา ณ สมณนคร พระภิกษุขีณาสพมาประชุมกันพันโกฏิ ครั้งที่ ๒ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จจากเทวโลกมายังมนุษยโลก แม้ครั้งนั้น พระภิกษุขีณาสพมาประชุมกันร้อยโกฏิครั้งที่ ๓ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงประกาศธุดงคคุณ ครั้งนั้นพระภิกษุขีณาสพมาประชุมกันแปดสิบโกฏิ
สมัยนั้น เราเป็นท้าวปุรินททสักกเทวราช ได้บูชาพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยของหอม มาลาและดนตรีทิพย์ แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นประทับนั่งท่ามกลางสงฆ์ ก็ทรง
พยากรณ์เราในกาลนั้นว่า ในพันร้อยแปดกัป ผู้นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้า ... ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้น
เราได้ฟังพระพุทธพยากรณ์ แม้นั้นแล้ว ก็ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง ได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการยิ่งขึ้นไป พระนครชื่อว่าสรณะ พระบรมกษัตริย์พระนามว่าสรณะ เป็นพระชนกของพระธรรมทัสสีศาสดาพระนางสุนันทา เป็นพระชนนี พระองค์ทรงครอบครองอาคารสถานอยู่แปดพันปี ทรงมีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อว่าอรชะ วิรชะ และสุทัสนะ มีพระสนมนารีกำนัลในสี่หมื่น ล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสีพระนามว่าวิจิโกลี พระราชโอรสพระนามว่าปุญญวัฑฒนะ พระองค์ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ จึงเสด็จออกผนวชด้วยปราสาท ได้ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วัน
พระธรรมทัสสีนราสภมหาวีรเจ้า ผู้สูงสุดกว่านรชน อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักร ณ มฤคทายวัน พระองค์มีพระปทุมเถระและพระปุสสเทวเถระ เป็นพระอัครสาวก พระเถระชื่อว่าสุทัตตะ เป็นพระพุทธอุปัฏฐาก พระเขมาเถรีและพระสัจจนามาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา ไม้โพธิพฤกษ์ของพระองค์เรียกชื่อว่าติมพชาละ (มะพลับ) สุภัททอุบาสกและกฏิสสหอุบาสก เป็นอัครอุปัฏฐากสาฬิสาอุบาสิกาและกฬิสสาอุบาสิกา เป็นอัครอุปัฏฐายิกา แม้พระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอเหมือนพระองค์นั้นสูง ๘๐ ศอก ทรงมีพระเดชรุ่งเรืองอย่างยิ่ง แผ่ไปในหมื่นธาตุ พระองค์งามสง่า ดังพญารังมีดอกบาน เหมือนสายฟ้าในอากาศ ดุจพระอาทิตย์ในเวลาเที่ยง ฉะนั้น
แม้พระพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุ มีพระเดชไม่มีเทียบเคียง ทรงดำรงพระชนมชีพอยู่สม่ำเสมออยู่ในโลกแสนปี ทรงแสดงพระรัศมีสว่างไสว ทำพระศาสนาให้ปราศจากมลทิน เสด็จนิพพานพร้อมกับพระสาวก ดังพระจันทร์ลับไปในท้องฟ้า ฉะนั้น พระธรรมทัสสีมหาวีรเจ้าเสด็จนิพพาน ณ เกสาราม พระสถูปอันประเสริฐของพระองค์ สูง ๓ โยชน์ ฉะนี้แล.
จบธรรมทัสสีพุทธวงศ์ที่ ๑๕
ที่มา: พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ (ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ พุทธวงศ์-จริยาปิฎก)
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250