อมฤตพจนา
๑๙. พ้นทุกข์ – พบสุข (๔๔๕)
ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส จ
นินฺทา ปสํสา จ สุขํ จ ทุกฺขํ
เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา
มา โสจิ กึ โสจสิ โปฏฺปาท
ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ
นินทา สรรเสริญ สุขและทุกข์
สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมดาในหมู่มนุษย์
ไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน
อย่าเศร้าโศกเลย ท่านจะโศกเศร้าไปทำไม
๔๔๕ [๑๙.๐๑] (๒๗/๖๑๕)
∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻
คติสอนใจ
- โลกธรรม ๘ คือ ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุขและทุกข์ เป็นธรรมดาของหมู่มนุษย์
- โลกธรรมดา ไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน ได้มาก็สูญไปเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่ไม่รู้จักพอ
- ความทุกข์อาจจะทุเลาลงได้ ถ้าเรารู้จักพอ ไม่ทะเยอทะยานอยากจนเกินไป พอใจในสิ่งที่ตนได้ ตนเป็น นั่นคือ การหยุดตัณหาทุกชนิด
อมฤตพจนา
๑๙. พ้นทุกข์ – พบสุข (๔๔๖)
อสาตํ สาตรูเปน ปิยรูเปน อปฺปิยํ
ทุกฺขํ สุขสฺส รูเปน ปมตฺตมติวตฺตติ
ผู้ที่มัวเพลินประมาทอยู่กับสิ่งที่ชอบใจ
สิ่งที่รัก และความสุข
จะถูกสิ่งที่ไม่ชอบใจ สิ่งที่ไม่รัก
และความทุกข์ เข้าครอบงำ
๔๔๖ [๑๙.๐๒] (๒๗/๑๐๐)
∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻
คติสอนใจ
- ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นอนิจจัง ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน อย่าประมาทว่าจะพบกับสิ่งที่ชอบอยู่เสมอ เพราะถ้าพบเจอกับสิ่งที่ไม่ชอบจะทุกข์หนัก
- เพื่อมิให้ต้องผิดหวังมาก ก็อย่าคาดหวังมากเกินความสามารถ และตั้งเป้าอย่าให้สูงเกินกำลัง
- พอใจในสิ่งที่ตนทำได้
- ทุกข์ในการตายเกิดในวัฏสงสาร
- สังขารเป็นทุกข์ยิ่งนัก เพราะสังขารเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง
อมฤตพจนา
๑๙. พ้นทุกข์ – พบสุข (๔๕๖)
สุขํ วต ตสฺส น โหติ กิญฺจิ
ผู้ไม่มีอะไรค้างใจกังวล
ย่อมมีแต่ความสุขหนอ
๔๕๖ [๑๙.๑๒] (๒๕/๕๕)
∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻
คติสอนใจ
- ผู้ที่ใช้หลักอิทธิบาท ๔ ในการทำงาน และหลักพรหมวิหาร ๔ ในการทำงาน จะพบแต่ความสำเร็จและความสุขในการทำงาน
- ในการทำงาน จงสร้างนิสัยให้รู้จักการเป็นผู้เสียสละ หรือยอมเสียเปรียบ จะทำให้ชีวิตท่านจะมีแต่ความสุข จากการให้แก่ผู้ที่คิดว่าตนชนะจากการได้เปรียบ
- แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร
- ทุกข์เพราะความถือมั่น
- ทุกข์ของการเวียนว่ายตายเกิด
- ทุกข์ที่จะเกิดขึ้นจริงๆ ก็เกิดขึ้นที่จิตใจของตนเองไม่ได้เกิดขึ้นจากคนอื่น แต่คนทั้งหลายก็คิดว่าคนอื่นทำให้เราเป็นทกุข์
- ทุกข์จริงๆ นั้นเป็นเพราะจิตใจของพวกเราเกิดความคิดขึ้นมาก็เลยคิดยึดมั่นถือมั่น
- การที่จิตคิดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วก็ดับไปครั้งหนึ่ง เราก็ตายไปชาติหนึ่ง เมื่อเราทุกคนคิดมากๆ ยิ่งคิดหลายอารมณ์เท่าไร เราก็ยิ่งตายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อจิตคิดเกิดๆ ตายๆ เช่นนี้ก็ทุกข์มาก
(ข้อ ๔ – ข้อ ๘)
ที่มา: หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป)
อมฤตพจนา
๑๙. พ้นทุกข์ – พบสุข (๔๕๘)
อตีตํ นานุโสจนฺติ นปฺปชปฺปนฺติ นาคตํ
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ เตน วณฺโณ ปสีทติ
ผู้ถึงธรรม ไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว
ไม่ฝันเพ้อถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ดำรงอยู่ด้วยสิ่งที่เป็นปัจจุบัน
ฉะนั้น ผิวพรรณจึงผ่องใส
๔๕๘ [๑๙.๑๔] (๑๕/๒๒)
∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻
คติสอนใจ
- จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะทำให้ชีวิตท่านประสบกับความสำเร็จ
- อดีต คือ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถแก้ไข อนาคต คือ สิ่งที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้น ไม่ควรกังวลมากจนเกินไป ดังนั้น สิ่งที่ควรทุ่มเททำก็คือ ปัจจุบัน ทำให้ดีที่สุด
อมฤตพจนา
๑๙. พ้นทุกข์ – พบสุข (๔๕๙)
สุขิโน วตารหนฺโต
ท่านผู้ไกลกิเลส มีความสุขจริงหนอ
๔๕๙ [๑๙.๑๕] (๑๗/๑๕๓)
∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻∻
คติสอนใจ
- ท่านผู้ที่สามารถฆ่ากิเลส (โลภะ โทสะ โมหะ) ของตนเองได้ จัดว่าเป็นผู้ที่มีชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ จะสามารถมีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง
- โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านสามารถชนะกิเลสได้ ทำให้กิเลสมารยอมแพ้ท่านโดยไม่ต้องใช้อาวุธใดๆ เลย
- ความสุขที่แท้จริง ก็คือ การดับเสียซึ่งกิเลส เพราะทำให้หยุดความอยาก (ตัณหา) การดับชาติ ดับชรา ดับมรณะ ถือว่าเป็นที่สุดของความทุกข์ และทำให้ได้สุขสูงสุด
- ท่านผู้ไกลกิเลส คือผู้ไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ๘
- หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป สอนไว้ว่า….
หากบุคคลใดมีมานะทิฏฐิ ถือตัวถือตนอยู่แล้วไม่ลดละลงไป ก็เหมือนเราแบกท่อนไม้ซุงอยู่ทำให้บ่าของเราหนัก หนักอยู่ที่ไหน หนักอยู่ที่จิตใจที่มีมานะทิฏฐิ ใครวางท่อนซุงจากใจได้ก็สบายเลย