เมื่อพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีทั้ง 10 ครบ ถ้วนบริบูรณ์แล้วทั้ง 3 ขั้น จึงจะพร้อมที่ จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (บารมี 10 ประการนั้นคือ เนกขัมมะ ออกจากกาม เมตตา ความรักใคร่ปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ วิริยะ ความพยายาม อธิษฐาน การตั้งจิตมั่น ปัญญา ความรอบรู้ ศีล การรักษาศีล ขันติ ความอดทน อุเบกขา ความวางเฉย สัจจะ ความสัตย์ ทาน การให้)
บารมี 3 ชั้นคือ (1) บารมี (บารมีระดับ ธรรมดาๆ ไม่เข้มเท่าใดนัก) (2) อุปบารมี (บารมีระดับเกือบจะอุกฤษฎ์) และ (3) ปรมัตถบารมี (บารมีระดับอุกฤษฎ์)
เมื่อบารมีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว พระโพธิ- สัตว์ก็ไปเกิดเป็นเทพบนสวรรค์ชั้นดุสิต มี นามคล้ายนามชองชั้นนี้ว่า สันดุสิตเทพบุตร เสวยสุขอันเป็นทิพย์ อยู่บนสวรรค์ รอวันเวลาจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า สันดุสิตเทพบุตรพิจารณาดู “ปัญจมหาวิโลกนะ” (การตรวจตราดูอันยิ่งใหญ่ถึงเงื่อนไข 5 ประการ กาล ประเทศ ตระกูล มารดา อายุ) เมื่อเห็น ว่าเงื่อนไขทั้ง 5 ประการพร้อมแล้ว สันดุสิตเทพบุตร ก็รับอัญเชิญ ท้าวมหาพรหมและเหล่าเทพยดาเพื่อมาอุบัติในมนุษย์โลก พระโพธิสัตว์จึงลงมาปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายาพระอัครมเหสีแห่งพระเจ้าสุทโธทนะ กษัตริย์ผู้ครองนครกบิลพัสดุ์ ณ วันเพ็ญ เดือน 8 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 80 ปี (โหรเขาคำนวณไว้อย่างนั้น)
พุทธประวัติปางนี้เรียกว่า ปางอัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์จุติ นับเป็น ปางแรกสุดแล
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250