ภาพที่เห็นอยู่นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดกับพระพุทธเจ้าในสถานที่และในสัปดาห์เดียวกัน กับที่ได้บรรยายไว้แล้วในภาพที่ ๓๐ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ คือ ต้นราชายตนะ หรือต้นเกด ส่วนสัปดาห์ที่ประทับอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตรัสรู้แล้วเป็นต้นมา นับเป็นสัปดาห์ที่ ๔
สัปดาห์ที่ ๑ ประทับที่ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สัปดาห์ที่ ๒ ที่ใต้ต้นไทรที่เคยเป็นที่ อาศัยของคนเลี้ยงแพะ ที่เรียกว่า 'อชปาลนิโครธ' สัปดาห์ที่ ๓ ที่ใต้ต้นมุจลินทร์ หรือต้นจิก และที่ ๔ คือ ที่กำลังเห็นอยู่นั้น
ในภาพที่เห็นนั้นคือ คนหนึ่งในจำนวนนายพาณิช หรือนายกองเกวียนสองพี่น้องกำลัง ยกข้าวสัตตุก้อนและสัตตุผงถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงรับด้วยบาตรศิลา ที่ท้าว จาตุมหาราชหรือท้าวจตุโลกบาลก็เรียกนำมาถวาย ดังได้บรรยายไว้แล้ว
ท้าวจาตุมหาราช เป็นเทพเจ้าผู้ใหญ่ ผู้ทำหน้าที่รักษาโลก ประจำอยู่ในทิศทั้ง ๔ คือ ท้าวธตรฐ เป็นหัวหน้าฝ่ายคนธรรพ์ อยู่ทางทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก เป็นหัวหน้าฝ่าย เทวดา อยู่ทางทิศใต้ ท้าววิรูปักษ์ เป็นหัวหน้าฝ่ายนาค อยู่ทางทิศตะวันตก และท้าวกุเวร เป็นหัวหน้าฝ่ายยักษ์ อยู่ทางทิศเหนือ เทพเจ้าทั้ง ๔ นำบาตรองค์ละหนึ่งใบ รวมเป็น ๔ ใบ มาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงรับแล้วทรงอธิษฐานให้เป็นใบเดียวกันแล้วรับอาหาร จากสองนายกองเกวียนพี่น้อง
ปฐมสมโพธิเล่าไว้ว่า บาตรใบแรกของพระพุทธเจ้าที่ฆฏิการพรหมนำมาถวายพร้อมทั้ง จีวร เมื่อคราวเสด็จออกทรงผนวช และเสด็จถึงฝั่งแม่น้ำอโนมานั้น เกิดหายไปในตอนจะรับ ข้าวมธุปายาส จากนางสุชาดา คือ ตอนก่อนตรัสรู้ได้หนึ่งวัน
เมื่อสองพี่น้องนายกองเกวียนนำอาหารเสบียงมาถวายพระพุทธเจ้า เกิดไม่มีบาตรจะรับ อาหาร เทพเจ้าทั้ง ๔ จึงนำบาตรมาถวายดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้เป็นธรรมเนียมของพระศาสดาชั้นพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่ไม่รับของถวายจำพวกอาหาร ด้วยพระหัตถ์ แต่จะรับด้วยภาชนะคือบาตรเท่านั้น
ก็สมัยนั้น พ่อค้าชื่อตปุสสะ ๑ ภัลลิกะ ๑ เดินทางไกลจากอุกกลชนบท ถึงตำบลนั้น. ครั้งนั้น เป็นเทพยดาผู้ เป็นญาติสาโลหิตของตปุสสะ ภัลลิกะ ๒ พ่อค้า ได้กล่าวคำนี้กะ ๒ พ่อค้านั้นว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ พระผู้มี- พระภาคพระองค์นี้แรกตรัสรู้ ประทับอยู่ ณ ควงไม้ราชายตนะ ท่านทั้งสองจงไปบูชาพระผู้มีพระภาคนั้น ด้วย สัตตุผง และ สัตตุก้อน การบูชาของท่านทั้งสองนั้น จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ท่านทั้งหลาย ตลอดกาลนาน.
ครั้งนั้น พ่อค้าชื่อตปุสสะ และภัลลิกะ ถือสัตตุผงและสัตตุก้อนเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคแล้วถวายบังคม ได้ ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. สองพ่อค้านั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ครั้นแล้วได้ทูลคำนี้แด่ พระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มี
พระภาคจงทรงรับสัตตุผงสัตตุก้อนของข้าพระพุทธเจ้าทั้งสอง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายตลอดกาลนาน. ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค ได้ทรงปริวิตกว่า พระตถาคตทั้งหลาย ไม่รับวัตถุด้วยมือ เราจะพึงรับสัตตุผง และสัตตุก้อนด้วยอะไรหนอ
ลำดับนั้น ท้าวมหาราชทั้ง ๔ องค์ทรงทราบพระปริวิตกแห่งจิตของพระผู้มีพระภาค ด้วยใจของตนแล้ว เสด็จ มาจาก ๔ ทิศ ทรงนำบาตรที่สำเร็จด้วยศิลา ๔ ใบเข้าไปถวายพระผู้มีพระภาคกราบทูลว่า ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงรับสัตตุผงและสัตตุก้อนด้วยบาตรนี้ พระพุทธเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคทรงใช้บาตรสำเร็จด้วยศิลาอัน ใหม่เอี่ยม รับสัตตุผงและสัตตุก้อนแล้วเสวย.
ครั้งนั้น พ่อค้าตปุสสะและภัลลิกะ ได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้าข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองนี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาคและพระธรรมว่า เป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองว่าเป็น อุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป. ก็นายพาณิชสองคนนั้น ได้เป็นอุบาสกกล่าวอ้าง ๒ รัตนะ เป็นชุดแรกในโลก.
วิ. มหา. ๔/๖/๘
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250