พระนามของพระพุทธเจ้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
- พระพุทธสิกขีทศพลที่ 1 (สมเด็จองค์ปฐม – พระพุทธเจ้าองค์แรกของโลก)
- พระตัณหังกรพุทธเจ้า
- พระเมธังกรพุทธเจ้า
- พระสรณังกรพุทธเจ้า
- พระทีปังกรพุทธเจ้า
- พระโกณฑัญญพุทธเจ้า
- พระมังคลพุทธเจ้า
- พระสุมนพุทธเจ้า
- พระเรวตพุทธเจ้า
- พระโสภิตพุทธเจ้า
- พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า
- พระปทุมพุทธเจ้า
- พระนารทพุทธเจ้า
- พระปทุมุตรพุทธเจ้า
- พระสุเมธพุทธเจ้า
- พระสุชาตพุทธเจ้า
- พระปิยทัสสีพุทธเจ้า
- พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า
- พระธรรมทัสสีพุทธเจ้า
- พระสิทธัตถพุทธเจ้า
- พระติสสพุทธเจ้า
- พระปุสสพุทธเจ้า
- พระวิปัสสีพุทธเจ้า
- พระสิขีพุทธเจ้า
- พระเวสสภูพุทธเจ้า
- พระกกุสันธพุทธเจ้า
- พระโกนาคมนพุทธเจ้า
- พระกัสสปพุทธเจ้า
- พระโคตมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
พระพุทธเจ้าในอดีต โดยในแต่ละกัลป์(กัป) จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ดังนี้
- สารมัณฑกัลป์ มี 4 พระองค์ คือ ตัณหังกร, เมธังกร, สรณังกร, ทีปังกร
- สารกัลป์ มี 1 พระองค์ คือ โกณฑัญญะ
- สารมัณฑกัลป์ มี 4 พระองค์ คือ มังคละ, สุมนะ, เรวตะ, โสภิตะ
- วรกัลป์ มี 3 พระองค์ คือ อโนมทัสสี, ปทุม, นารทะ
- สารกัลป์ มี 1 พระองค์ คือ ปทุมุตระ
- มัณฑกัลป์ มี 2 พระองค์ คือ สุเมธะ, สุชาตะ
- วรกัลป์ มี 3 พระองค์ คือ ปิยทัสสี, อรรถทัสสี, ธรรมทัสสี
- สารกัลป์ มี 1 พระองค์ คือ สิตธัตถะ
- มัณฑกัลป์ มี 2 พระองค์ คือ ติสสะ, ปุสสะ
- สารกัลป์ มี 1 พระองค์คือ วิปัสสี
- มัณฑกัลป์ มี 2 พระองค์คือ สิขี, เวสสภู
- ภัทรกัลป์ (กัลป์ปัจจุบัน) มี 5 พระองค์คือ กกุสนธะ, โกนาคมน์, กัสสปะ, โคดม (พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน)
พุทธปกิรณกกัณฑ์
ว่าด้วยเรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า
ในกัปอันประมาณมิได้แก่ภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกชั้นพิเศษ 4 พระองค์ คือ พระตัณหังกรสัมพุทธเจ้า 1 พระเมธังกรสัมพุทธเจ้า 1 พระสรณังกรสัมพุทธเจ้า 1 และพระทีปังกรสัมพุทธเจ้า 1 ท่านเหล่านั้นเสด็จอุบัติในกัปเดียวกัน ต่อจากที่พระทีปังกรสัมพุทธเจ้า พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโกณฑัญญะพระองค์เดียวเสด็จอุบัติกัปหนึ่ง ทรงช่วยให้หมู่ชนข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย ระหว่างพระผู้มีพระภาคทีปังกร และพระโกณฑัญญะบรมศาสดา เป็นอันตรกัป โดยจะคำนวณนับมิได้ ต่อจากพระโกณฑัญญะบรมศาสดา มีพระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ แม้ระหว่างพระโกณฑัญญะและพระมังคละพุทธเจ้านั้น ก็เป็นอันตรกัป โดยจะคำนวณนับมิได้ พระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ สุมนะ เรวตะ และโสภิตะ ผู้เป็นมุนี มีจักษุ มีพระรัศมีสว่างไสว แม้พระพุทธเจ้า 4 พระองค์นั้นก็เสด็จอุบัติขึ้นในกัปเดียว กันต่อจากพระโสภิตพุทธเจ้ามีพระมหามุนีพระนามว่าอโนมทัสสี แม้ระหว่างพระพุทธเจ้าพระนามว่าโสภิตะ และอโนมทัสสีนั้นก็เป็นอันตรกัป โดยจะคำนวณนับมิได้ พระพุทธเจ้าพระนามว่าอโนมทัสสี ปทุมะ และนารทะ ผู้เป็นมุนีกระทำที่สุดความมืด ก็เสด็จอุบัติขึ้นในกัปเดียว ต่อจากพระนารทสัมพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ เสด็จอุบัติในกัปหนึ่ง ทรงช่วยให้หมู่ชนข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย แม้ระหว่างพระผู้มีพระภาคนารทะและพระปทุมุตรศาสดานั้น ก็เป็นอันตรกัป โดยจะคำนวณนับมิได้ในแสนกัป มีพระมหามุนีพระองค์เดียว คือ พระปทุมุตระผู้รู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ในสามหมื่นกัปต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์ คือ พระสุเมธะและพระสุชาตะ ในพันแปดร้อยกัป (แต่กัปนี้) มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ คือ พระปิยทัสสี พระอัตถทัสสี และพระธรรมทัสสี ต่อจากพระสุชาตพุทธเจ้า พระสัมพุทธเจ้าผู้อุดมกว่าสัตว์ ผู้ไม่มีบุคคลเปรียบในโลก 3 พระองค์นั้น เสด็จอุบัติในกัปเดียวกัน ในกัปที่ 94 แต่ภัทรกัปนี้ มีพระมหามุนีพระองค์เดียวคือ พระสิทธัตถะ ผู้ทรงรู้แจ้งโลก ยอดเยี่ยมโดยมีบุญสิริ ในกัปที่ 92 แต่ภัทรกัปนี้ มีพระสัมพุทธเจ้า 2 พระองค์ คือพระติสสะและพระปุสสะ ผู้ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอ ในกัปที่ 91 แต่ภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก ผู้มีพระกรุณาพระนามว่าวิปัสสี ทรงเปลื้องสัตว์ทั้งหลายจากเครื่องผูก ในกัปที่ 31 แต่ภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์ คือพระสิขีและพระเวสสภู ผู้ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอ ในภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ คือ พระกุกกุสันธะ พระโกนาคมนะ และพระกัสสปะ บัดนี้เราเป็นพระสัมพุทธเจ้าและจักมีพระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า แม้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์นี้ ก็เป็นนักปราชญ์ อนุเคราะห์โลก บรรดาพระพุทธเจ้าผู้เป็นธรรมราชาเหล่านี้ พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้าจักตรัสบอกมรรคานั้นแก่ผู้อื่นหลายโกฏิ แล้วจักเสด็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวก ฉะนี้แล.
จบพุทธปกิรณกกัณฑ์.
ขุ. พุทธ. 33/27/546