ปริญไญยธรรม
ธรรมที่เข้ากับกิจในอริยสัจจ์ข้อที่ 1 คือ ปริญญา (ธรรมอันพึงกำหนดรู้,สิ่งที่ควรรอบรู้ หรือรู้เท่าทันตามสภาวะของมัน ได้แก่ อุปาทานขันธ์ 5 กล่าวคือ ทุกข์และสิ่งทั้งหลายที่อยู่ในจำพวกที่เป็นปัญหาหรือเป็นที่ตั้งแห่งปัญหา - Pariññeyya-dhamma: things to be fully understood, i.e. the five aggregates of existence subject to clinging)
- ไตรลักษณ์
- ทุกขตา 3
- ธรรมนิยาม 3
- ธาตุ 6
- ขันธ์ 5
- นิยาม 5
- อายตนะ 12
ไตรลักษณ์ (ลักษณะ 3, อาการที่เป็นเครื่องกำหนดหมาย 3 อย่าง อันให้รู้ถึงความจริงของสภาวธรรมทั้งหลาย ที่เป็นอย่างนั้นๆ ตามธรรมดาของมัน - Tilakkhaõa: the ThreeCharacteristics)
- อนิจจตา (ความเป็นของไม่เที่ยง - Aniccatà: impermanence; transiency)
- ทุกขตา (ความเป็นทุกข์ - Dukkhatà: state of suffering or being oppressed)
- อนัตตตา (ความเป็นของไม่ใช่ตน - Anattatà: soullessness; state of being not self)
- ลักษณะทั้ง ๓ นี้ มีแก่สิ่งทั้งหลายเป็นสามัญเสมอเหมือนกัน คือ ทุกอย่างที่เป็นสังขตะ เป็นสังขาร ล้วนไม่เที่ยง (อนิจจา) คงทนอยู่มิได้ (ทุกขา) เสมอเหมือนกันทั้งหมด ทุกอย่างที่เป็นธรรม ทั้งสังขตะคือสังขาร และอสังขตะคือวิสังขาร ล้วนมิใช่ตน ไม่เป็นอัตตา (อนัตตา) เสมอกันทั้งสิ้น จึงเรียกว่า สามัญลักษณะ หรือ สามัญลักษณ์ (Sàma¤¤a-lakkhaõa: the Common Characteristics)
- ลักษณะทั้ง 3 เหล่านี้ ปรากฏอยู่ตามธรรมดาที่แน่นอน เป็นไปตามกฎธรรมชาติ คือ ธรรมนิยามลักษณะเหล่านี้ มี 3 อย่าง จึงเรียกว่า ไตรลักษณ์
- ไตรลักษณ์ ก็ดี สามัญลักษณ์ ก็ดี เป็นคำในชั้นอรรถกถา ส่วนในพระไตรปิฎก ลักษณะ 3 อย่างนี้ อยู่ในหลัก ธรรมนิยาม
S.IV.1; Dh.277–9. |
สํ.สฬ.18/1/1; ขุ.ธ.25/30/51. |
ทุกขตา 3 (ความเป็นทุกข์, ภาวะแห่งทุกข์, สภาพทุกข์, ความเป็นสภาพที่ทนได้ยาก หรือคงอยู่ในภาวะเดิมไม่ได้ - Dukkhatà: state of suffering or being subject to suffering; conflict; unsatisfactoriness)
- ทุกขทุกขตา (สภาพทุกข์คือทุกข์ หรือความเป็นทุกข์เพราะทุกข์ ได้แก่ ทุกขเวทนาทางกายก็ตาม ใจก็ตาม ซึ่งเป็นทุกข์อย่างที่เข้าใจสามัญ ตรงตามชื่อ ตามสภาพ - Dukkha-dukkhatà: painfulness as suffering)
- วิปริณามทุกขตา (ความเป็นทุกข์เพราะความแปรปรวน ได้แก่ความสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์เมื่อต้องเปลี่ยนแปลงแปรไปเป็นอย่างอื่น - Vipariõàma-dukkhatà: suffering in change)
- สังขารทุกขตา (ความเป็นทุกข์เพราะเป็นสังขาร ได้แก่ตัวสภาวะของสังขาร คือสิ่งทั้งปวงซึ่งเกิดจากปัจจัยปรุงแต่ง ที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ้นและสลายไป ทำให้คงสภาพอยู่ไม่ได้ พร่องอยู่เสมอ และให้เกิดทุกข์แก่ผู้ยึดถือด้วยอุปาทาน - Saïkhàra-dukkhatà: suffering due to formations; inherent liability to suffering)
D.III.216; S.IV.259; V.56. |
ม.อุ.14/169/125; อภิ.วิ.35/114/10
|
ธรรมนิยาม 3 (กำหนดแห่งธรรมดา, ความเป็นไปอันแน่นอนโดยธรรมดา, กฎธรรมชาติ - Dhamma-niyàma: orderliness of nature; natural law)
- สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา (สังขารคือสังขตธรรมทั้งปวงไม่เที่ยง - Sabbe saïkhàrà aniccà: all conditioned states are impermanent)
- สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา (สังขารคือสังขตธรรมทั้งปวงเป็นทุกข์ - Sabbe saïkhàrà dukkhà: all conditioned states are subject to oppression, conflict or suffering)
- สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา (ธรรมคือสังขตธรรมและอสังขตธรรม หรือสังขารและวิสังขารทั้งปวงไม่ใช่ตน - Sabbe dhammà anattà: all states are not-self or soulless)
หลักความจริงนี้ แสดงให้เห็นลักษณะ 3 อย่าง ที่เรียกว่า ไตรลักษณ์ ของสภาวธรรมทั้งหลาย (ดู[76] ไตรลักษณ์) พระพุทธเจ้าจะอุบัติหรือไม่ก็ตาม หลักทั้งสามนี้ ก็คงมีอยู่เป็นธรรมดา พระพุทธเจ้าเป็นแต่ทรงค้นพบ และนำมาเปิดเผยแสดงแก่เวไนย.
A.I.285. |
องฺ.ติก.20/576/368. |
ธาตุ 6 (Dhàtu: the six elements) ได้แก่ธาตุ 4 หรือมหาภูต 4 คือ ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และ วาโยธาตุ นั้น กับเพิ่มอีก 2 อย่าง คือ
- อากาสธาตุ (สภาวะที่ว่าง โปร่งไป เป็นช่อง - âkàsa-dhàtu: the space-element)
- วิญญาณธาตุ (สภาวะที่รู้แจ้งอารมณ์ ธาตุรู้ ได้แก่วิญญาณธาตุ 6 คือ จักขุวิญญาณธาตุ โสต ~ ฆาน ~ ชิวหา ~ กาย ~ มโนวิญญาณธาตุ - Vi¤¤àõa-dhàtu: element of consciousness; consciousness-element)
M.III.31; Vbh.82. |
ม.อุ.14/169/125; อภิ.วิ.35/114/10
|
ขันธ์ 5 หรือ เบญจขันธ์ (กองแห่งรูปธรรมและนามธรรมห้าหมวดที่ประชุมกัน เข้าเป็นหน่วยรวม ซึ่งบัญญัติเรียกว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา–เขา เป็นต้น, ส่วนประกอบห้าอย่างที่รวมเข้าเป็นชีวิต - Pa¤ca-khandha: the Five Groups of Existence; Five Aggregates)
- รูปขันธ์ (กองรูป, ส่วนที่เป็นรูป, ร่างกาย พฤติกรรม และคุณสมบัติต่างๆ ของส่วนที่เป็นร่างกาย, ส่วนประกอบฝ่ายรูปธรรมทั้งหมด, สิ่งที่เป็นร่างพร้อมทั้งคุณและอาการ - Råpakhandha corporeality)
- เวทนาขันธ์ (กองเวทนา, ส่วนที่เป็นการเสวยรสอารมณ์, ความรู้สึก สุข ทุกข์ หรือเฉยๆ - Vedanà-khandha: feeling; sensation)
- สัญญาขันธ์ (กองสัญญา, ส่วนที่เป็นความกำหนดหมายให้จำอารมณ์นั้นๆ ได้, ความกำหนดได้หมายรู้ในอารมณ์ 6 เช่นว่า ขาว เขียว ดำ แดง เป็นต้น - Sa¤¤à-khandha: perception)
- สังขารขันธ์ (กองสังขาร, ส่วนที่เป็นความปรุงแต่ง, สภาพที่ปรุงแต่งจิตให้ดีหรือชั่วหรือเป็นกลางๆ, คุณสมบัติต่างๆ ของจิต มีเจตนาเป็นตัวนำ ที่ปรุงแต่งคุณภาพของจิต ให้เป็นกุศล อกุศล อัพยากฤต - Saïkhàra-khandha: mental formations; volitional activities)
- วิญญาณขันธ์ (กองวิญญาณ, ส่วนที่เป็นความรู้แจ้งอารมณ์, ความรู้อารมณ์ทางอายตนะทั้ง 6 มีการเห็น การได้ยิน เป็นต้น ได้แก่ วิญญาณ 6 - Vi¤¤àõa-khandha: consciousness)
ขันธ์ 5 นี้ ย่อลงมาเป็น 2 คือ นาม และ รูป; รูปขันธ์จัดเป็นรูป, 4 ขันธ์นอกนั้นเป็นนาม.อีกอย่างหนึ่ง จัดเข้าในปรมัตถธรรม 4: วิญญาณขันธ์เป็น จิต, เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และสังขารขันธ์ เป็น เจตสิก, รูปขันธ์ เป็น รูป, ส่วน นิพพาน เป็นขันธวินิมุต คือ พ้นจากขันธ์ 5
เรื่องขันธ์ 5 พึงดูประกอบในหมวดธรรมอื่นๆ เช่น
- รูปขันธ์ : รูป 2, 28; มหาภูต 4; อุปาทายรูป 24.
- เวทนาขันธ์ : เวทนา 2; เวทนา 3; เวทนา 5; เวทนา 6.
- สัญญาขันธ์ : สัญญา 6.
- สังขารขันธ์ : สังขาร 3; สังขาร 3; อภิสังขาร 3; เจตนา 6.
- วิญญาณขันธ์ : วิญญาณ 6.
S.III.47; Vbh.1. |
สํ.ข.17/95/58; อภิ.วิ.35/1/1. |
นิยาม 5 (กำหนดอันแน่นอน, ความเป็นไปอันมีระเบียบแน่นอนของธรรมชาติ, กฎธรรมชาติ - Niyàma: orderliness of nature; the five aspects of natural law)
- อุตุนิยาม (กฎธรรมชาติเกี่ยวกับอุณหภูมิ หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆ โดยเฉพาะดิน น้ำ อากาศ และฤดูกาล อันเป็นสิ่งแวดล้อมสำหรับมนุษย์ - Utu-niyàma: physical inorganic order; physical laws)
- พีชนิยาม (กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ มีพันธุกรรมเป็นต้น - Bãja-niyàma: physical organic order; biological laws)
- จิตตนิยาม (กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการทำงานของจิต - Citta-niyàma: psychic law)
- กรรมนิยาม (กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการกระทำของมนุษย์ คือ กระบวนการให้ผลของการกระทำ - Kamma-niyàma: order of act and result; the law of Kamma; moral laws)
- ธรรมนิยาม (กฎธรรมชาติเกี่ยวกับความสัมพันธ์และอาการที่เป็นเหตุเป็นผลแก่กันแห่งสิ่งทั้งหลาย - Dhamma-niyàma: order of the norm; the general law of cause and effect; causality and conditionality)
DA.II.432; DhsA.272. |
ที.อ.2/34; สงฺคณี.อ.408. |
อายตนะ 12 (สิ่งที่เชื่อมต่อกันให้เกิดความรู้, แดนต่อหรือแดนเกิดแห่งความรู้ - âyatana: sense-fields; sense-spheres)
- อายตนะภายใน 6
- อายตนะภายนอก 6