พระพุทธสิกขีทศพลที่ 1
สมเด็จองค์ปฐม : พระพุทธเจ้าองค์แรกของโลก
พระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม ทรงสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกแห่งโลกธาตุ ทรงค้นพบวิชาว่าด้วยการบำเพ็ญบารมีเพื่อความพ้นทุกข์และสำเร็จตามพระประสงค์ จากนั้นทรงบัญญัติรวบรวมพระสูตรพร้อมทั้งทรงฝึกบุคคลเพื่อให้ถึงความหลุดพ้นจากวัฏสงสาร และฝึกบุคคลเพื่อสืบทอดพุทธวงศ์ดำรงไว้ซึ่งพระสัทธรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ ระยะเวลาที่ทรงตั้งพระทัยมั่นค้นคว้าโดยไม่มีแบบอย่าง และไม่มีครูผู้ฝึกเป็นเวลาประมาณมิได้ แค่พระพุทธเจ้าที่บำเพ็ญบารมีแบบวิริยะธิกะพุทธเจ้า ซึ่งมีการบำเพ็ญบารมียาวนาน มากคือรวมทั้งสิ้น 80 อสงไขย โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
1. ปรารถนาในใจ 28 อสงไขย
2. เปล่งวาจาต่อพระพักตร์พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๓๖ อสงไขย รวมเป็น 64 อสงไขย จึงได้เป็น
3. นิตยะโพธิสัตว์ รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกจึงบำเพ็ญบารมีต่ออีก 16 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป
จึงจะถึงกาลมาตรัสรู้ได้
ดังนั้นพระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐมจะต้องทรงใช้เวลานานสักเท่าใดกว่าพระองค์ จะทรงมาตรัสรู้สั่งสอนสรรพสัตว์และสืบทอดพุทธวงศ์ได้ด้วยพระองค์ ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดพุทธวงศ์พระสัทธรรมทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ และจุดประกายความสว่างในจักรวาล ให้โลกได้เริ่มรู้จักการสั่งสมบุญบารมี เมื่อทรงใช้เวลาอันมิอาจจะประมาณได้จนพระองค์สามารถสรุปแนวทางอันแน่นอนแล้วก็ยัง ทรงเวียนว่ายในวัฏสงสารอยู่นานกว่า 40 อสงไขย จึงทรงดูกาลที่จะทรงลงมาตรัสรู้บนโลกในพระชาติสุดท้าย ขณะนั้นมนุษย์มีอายุขัยประมาณ 80,000 ปี ทรงออกมหาภิเนษกรมณ์เมื่อพระชนมายุได้ 40,000 ปี หลังจากทรงผนวชได้ 20,000 ปี จึงทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก จึงถือเป็นการอุบัติแห่งปฐมบรมครู พระผู้รู้แจ้งทุกสรรพสิ่งของโลกธาตุทุกสรรพวิชาในจักรวาล ที่ไม่มีใครเทียบและเสมอเหมือนพระองค์ ได้ทรงโปรดเวไนยสัตว์และประกาศพระสัทธรรมสร้างรากฐานก่อตั้งพระพุทธศาสนาอยู่เป็นเวลาประมาณ 20,000 ปี จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน
พระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐมทรงพระนามว่า สมเด็จพระพุทธสิกขี แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ต่อมาก็ทรงมีพระนามซ้ำกัน โดยเฉพาะ พระนามนี้มีด้วยกันถึง 5 พระองค์ จึงขอถวายพระนามว่า สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 พระองค์จึงทรงเป็นต้นวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระองค์เป็นสมเด็จองค์ปฐมบรมครูอย่างแท้จริง ส่วนพระนามอื่นๆ นั้น ชนทั่วไปยกย่องขานพระนามอีกมากมาย เหมือนพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่ได้ทรงรับการกล่าวขานพระนามมากมายเช่นกันด้วยความ เคารพความศรัทธาอย่างยิ่ง
คณาจารย์ ครูบาอาจารย์ผู้รู้ได้เล่าสืบต่อกันมา ด้วยท่านเหล่านั้นเป็นผู้สืบทอดเชื้อสายแห่งพุทธวงศ์มา จึงมีความรู้ตามวิสัยแห่งพุทธะไปด้วย และท่านที่มีความกล้าหาญอดทนเป็นยิ่ง ที่นำเรื่องสมเด็จองค์ปฐมมาเผยแผ่ให้ชนทั้งหลาย ไม่ลืมต้นกำเนิดแห่งพุทธวงศ์ คือ พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง เด่นชัดที่สุด ต่อมาสายหลวงปู่ปาน โสนันโท วัดบางนมโค, ศิษย์สายหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก, หลวงปู่ขันตยาภรณ์ สุสานไตรลักษณ์ แม่วาง เชียงใหม่ และน่าจะมีอีกหลายท่าน แต่ยังไม่ถึงกาลเวลาหรืออย่างไรจึงยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควร บัดนี้น่าจะถึงกาลเวลาที่ผู้รู้จะได้ยังกิจนี้ให้สมบูรณ์ เพื่อประโยชน์เกื้อหนุนแก่พระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองไม่มีประมาณ จะยังจิตให้แก่สรรพสัตว์ได้รักในการบำเพ็ญบารมีในทางที่ไม่ประมาท และเป็นความเจริญในชาติบ้านเมืองอันเป็นจุดนำไปสู่ความเจริญและสันติภาพของโลกด้วย
การบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า
ที่มา : ประวัติจากการบอกเล่า โดยพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250