ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านพระมหากัจจายนเถระ มาบังเกิดเป็นบุตรพราหมณ์ชื่อว่า กัญจนโคตร หรือ กัจจายนโคตร ปุโรหิตของพระเจ้าจัณฑปัชโชต ในกรุงอุชเชนี เมื่อเจริญวัยขึ้นแล้ว ได้เรียนจบไตรเพท เมื่อบิดาเสียชีวิตแล้วได้รับตำแหน่งเป็นปุโรหิตแทนบิดา กัจจายนโคตรปุโรหิตพร้อมด้วยบริวาร 7 คน พรกันไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระองค์ตรัสเทศนาสั่งสอน เมื่อจบเทศนา ได้บรรลุพระอรหันต์พรัอมกันทั้ง 8 คน แล้วจึงทูลขออุปสมบท พระบรมศาสดา ก็ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุ ด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา พระมหากัจจายนเถระเป็นผู้ฉลาดในการอธิบายความแห่งคำย่อให้พิสดาร เพื่อภิกษุทั้งหลายที่ไม่มีโอกาสทูลถามเนื้อความที่พระบรมศาสดาทรงตรัสโดยย่อ ด้วยเหตุนี้ ทรงสถาปนาพระเถระไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นยอดของเหล่าภิกษุ ผู้จำแนกอรรถแห่งพระดำรัส ที่ทรงตรัสโดยย่อให้พิสดาร (วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ)
ท่านมหากัจจายนะ ท่านได้ทูลขอให้พระองค์ทรงแก้ไขพระพุทธบัญญัติบางข้อ ซึ่งขัดข้องต่อภูมิประเทศ เช่น เมื่อครั้งท่านพำนักอยู่ ณ ภูเขาชื่อว่า ปวัตตะ แขวงเมืองกุรุรฆระ ในอวันตีทักขิณาปถชนบท 5 ข้อด้วยกันคือ
มธุรสูตร มีความเกี่ยวข้องกับพระมหากัจจายนเถระ ที่ได้ชื่อเช่นนั้น เพราะกล่าวถึง พระเจ้ามธุรราชอวันตีบุตร ซึ่งทรงถามพระมหากัจจยนเถระในเรื่องวรรณะ และได้รับคำตอบว่า วรรณะ 4 เหล่านั้น ไม่ต่างอะไรกัน วรรณะใดประพฤติปฏิบัติดี ก็จะได้ความนับถือ ความคุ้มครองรักษา เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ แต่ถ้าวรรณะใดประพฤติอกุศลกรรม ก็จะพบแต่ความมรณะสูอบายเสมอกันหมด ไม่มีพิเศษ ท่านพระมหากัจจายนะทูลตอบแล้ว แสดงวรรณะสี่เหล่าว่าไม่ต่างกัน ครั้นพระเจ้ามธุรราชได้สดับแล้วก็เกิดความเลื่อมใส แสดงพระองค์เป็นอุบาสก ถึงพระเถรเจ้ากับพระธรรมพระสงฆ์เป็นสรณะ ท่านพระมหากัจจายนะ อยู่มาถึงภายหลังแต่พุทธปรินิพพาน ท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้วก็ปรินิพพาน
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250