Language
 - 
Afrikaans
 - 
af
Albanian
 - 
sq
Amharic
 - 
am
Arabic
 - 
ar
Armenian
 - 
hy
Azerbaijani
 - 
az
Basque
 - 
eu
Belarusian
 - 
be
Bengali
 - 
bn
Bosnian
 - 
bs
Bulgarian
 - 
bg
Catalan
 - 
ca
Cebuano
 - 
ceb
Chichewa
 - 
ny
Chinese (Simplified)
 - 
zh-CN
Chinese (Traditional)
 - 
zh-TW
Corsican
 - 
co
Croatian
 - 
hr
Czech
 - 
cs
Danish
 - 
da
Dutch
 - 
nl
English
 - 
en
Esperanto
 - 
eo
Estonian
 - 
et
Filipino
 - 
tl
Finnish
 - 
fi
French
 - 
fr
Frisian
 - 
fy
Galician
 - 
gl
Georgian
 - 
ka
German
 - 
de
Greek
 - 
el
Gujarati
 - 
gu
Haitian Creole
 - 
ht
Hausa
 - 
ha
Hawaiian
 - 
haw
Hebrew
 - 
iw
Hindi
 - 
hi
Hmong
 - 
hmn
Hungarian
 - 
hu
Icelandic
 - 
is
Igbo
 - 
ig
Indonesian
 - 
id
Irish
 - 
ga
Italian
 - 
it
Japanese
 - 
ja
Javanese
 - 
jw
Kannada
 - 
kn
Kazakh
 - 
kk
Khmer
 - 
km
Korean
 - 
ko
Kurdish (Kurmanji)
 - 
ku
Kyrgyz
 - 
ky
Lao
 - 
lo
Latin
 - 
la
Latvian
 - 
lv
Lithuanian
 - 
lt
Luxembourgish
 - 
lb
Macedonian
 - 
mk
Malagasy
 - 
mg
Malay
 - 
ms
Malayalam
 - 
ml
Maltese
 - 
mt
Maori
 - 
mi
Marathi
 - 
mr
Mongolian
 - 
mn
Myanmar (Burmese)
 - 
my
Nepali
 - 
ne
Norwegian
 - 
no
Pashto
 - 
ps
Persian
 - 
fa
Polish
 - 
pl
Portuguese
 - 
pt
Punjabi
 - 
pa
Romanian
 - 
ro
Russian
 - 
ru
Samoan
 - 
sm
Scots Gaelic
 - 
gd
Serbian
 - 
sr
Sesotho
 - 
st
Shona
 - 
sn
Sindhi
 - 
sd
Sinhala
 - 
si
Slovak
 - 
sk
Slovenian
 - 
sl
Somali
 - 
so
Spanish
 - 
es
Sundanese
 - 
su
Swahili
 - 
sw
Swedish
 - 
sv
Tajik
 - 
tg
Tamil
 - 
ta
Telugu
 - 
te
Thai
 - 
th
Turkish
 - 
tr
Ukrainian
 - 
uk
Urdu
 - 
ur
Uzbek
 - 
uz
Vietnamese
 - 
vi
Welsh
 - 
cy
Xhosa
 - 
xh
Yiddish
 - 
yi
Yoruba
 - 
yo
Zulu
 - 
zu
๕๐

พระวังคีสเถระ

ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านพระวังคีสะ มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ในพระนครสาวัตถี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียน ตามคัมภีร์ในลัทธิของพราหมณ์ จนจบไตรเพท และได้เรียนมนต์พิเศษ อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ฉวสีสมนต์ เป็นมนต์สำหรับพิสูจน์กะโหลกซากศพแม้ตายแล้วตั้งสามปีสามารถรู้ว่าไปเกิดเป็นอะไรณที่ไหน  ได้อาศัยมนต์นั้นเป็นเครื่องเลี้ยงชีพ คือ ในชั้นต้นได้แสดงศิลปะนั้นให้ปรากฏโดยความจริงแก่พวกชนในพระนครนั้น  พวกพราหมณ์ทั้งหลาย ได้เห็นแล้วคิดกันว่า พวกเราอาศัยวังคีสพราหมณ์นี้เลี้ยงชีพได้ จึงได้พาเที่ยวไปสู่ชนบทน้อยใหญ่ ประกาศแก่หมู่มนุษย์ทั้งหลายว่า วังคีสพราหมณ์นี้ รู้มนต์วิเศษ คือ ร่ายมนต์แล้ว เอาเล็บเคาะที่ศีรษะแห่งสัตว์ที่ตายแล้ว ย่อมรู้ได้ว่า ผู้นี้ไปบังเกิดในนรก ผู้นี้ไปบังเกิดในกำเนิดสัตว์เดรัจฉานผู้นี้ไปเกิดในเปรตวิสัยผู้นี้ไปเกิดในเทวโลก พวกมนุษย์ทั้งหลาย ได้ยินประกาศดังนี้ ก็มีความประสงค์ อยากจะถามถึงพวกญาติของตนๆ บ้าง จึงให้ทรัพย์ตามกำลังของตน มากบ้างน้อยบ้าง แล้วถามถึงที่เกิดของพวกญาติของตนๆ 

พวกพราหมณ์เหล่านั้น พาวังคีสพราหมณ์เที่ยวไปในนิคมชนบทอย่างนี้ แล้วกลับมาถึงพระนครสาวัตถี พักอยู่ใกล้พระเชตวันมหาวิหารวันหนึ่งในเวลาเช้าพวกพราหมณ์เหล่านั้นพร้อมกันไปสู่พระเชตวันมหาวิหาร พระบรมศาสดาทรงทราบว่า พวกวังคีสพราหมณ์มาสู่ที่เฝ้า พระองค์รับสั่ง ให้นำกะโหลกคนตายมา 5 กะโหลก คือ กะโหลกของสัตว์เกิดในนรก กำเนิดสัตว์เดรัจฉานมนุษยโลกเทวโลกสี่กะโหลกพระขีณาสพกะโหลกหนึ่งตั้งเรียงไว้โดยลำดับกัน เมื่อวังคีสพราหมณ์เข้ามาเฝ้าแล้ว พระองค์ตรัสถามว่า ฉันได้ทราบว่าท่านร่ายมนต์แล้วเคาะกะโหลกมนุษย์ที่ตายแล้วย่อมรู้ที่เกิดของเขาหรือ? 

พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้ารู้ พระบรมศาสดาจึงตรัสถาม กะโหลกของสัตว์ สี่กะโหลก ที่เกิดในที่ทั้งสี่ วังคีสพราหมณ์ก็ทายถูกต้องทั้งหมด พระองค์จึงตรัสให้สาธุการว่า ดีละ ๆ ถูกต้องละ ลำดับนั้น พระองค์จึงตรัสถามกะโหลกที่ห้าว่า ผู้นี้ไปเกิดที่ไหน? วังคีสพราหมณ์ร่ายมนต์แล้วเคาะกะโหลกก็ไม่รู้จักที่เกิดเพราะเป็นกะโหลกพระอรหันต์    ครั้งนั้น วังคีสพราหมณ์ จึงกราบทูลขอเรียนมนต์นั้น พระองค์ตรัสว่า คนที่ไม่บวช ฉันให้เรียนไม่ได้ วังคีสพราหมณ์นั้น จึงคิดว่า ถ้าเราเรียนมนต์นี้ได้แล้ว เราจักเป็นใหญ่ในชมพูทวีปทั้งสิ้น ครั้นคิดอย่างนั้นแล้ว จึงส่งพราหมณ์เหล่านั้นไป และสั่งว่า พวกท่านจงรอเราอยู่นั่นแหละสักสองสามวันเราจักบวชในสำนักของพระบรมศาสดา ครั้นวังคีสพราหมณ์ ได้อุปสมบทแล้ว พระบรมศาสดาทรงประทานกรรมฐาน มีอาการสามสิบสอง เป็นอารมณ์ ตรัสสั่ง ให้ท่องบ่น บริกรรมซึ่งมนต์นั้น ครั้นท่านสาธยายมนต์นั้นอยู่อย่างนี้ พวกพราหมณ์ก็คอยมาถามอยู่ว่าเรียนมนต์ได้แล้วหรือยัง?ท่านตอบว่ารอก่อนกำลังเรียนอยู่    ล่วงไปสองสามวันเท่านั้นท่านพระวังคีสะได้บรรลุพระอรหัตผลเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ด้วยเหตุนี้ พระบรมศาสดาประทับนั่ง ณ ท่ามกลางสงฆ์ ทรงสถาปนาท่านไว้ ในตำแหน่งเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้มีปฏิภาณ (ปฏิภาณวนฺตานํ) 

 

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
post