พระโกนาคมนพุทธเจ้า
โกนาคมนพุทธวงศ์ที่ 23
ว่าด้วยพระประวัติพระโกนาคมนพุทธเจ้า
สมัยต่อมาจากพระกุกกุสันธพุทธเจ้า พระสัมพุทธนราสภชินเจ้าผู้อุดมกว่าสัตว์ เชษฐบุรุษของโลก พระนามว่าโกนาคมนะ ทรงบำเพ็ญธรรม 10 ประการบริบูรณ์ ข้ามทางกันดารได้แล้ว ทรงลอยมลทินทั้งปวงแล้ว ทรงบรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เมื่อพระองค์ผู้เป็นนายกชั้นพิเศษของโลก ทรงประกาศพระธรรมจักร ธรรมาภิสมัยครั้งที่ 1 ได้มีแก่สัตว์สามหมื่นโกฏิ และในคราวเมื่อพระองค์ทรงทำปฏิหาริย์ย่ำยีวาทะของผู้อื่น ธรรมาภิสมัยครั้งที่ 2 ได้มีแก่สัตว์สองหมื่นโกฏิ ต่อแต่นั้น พระมุนีสัมพุทธชินเจ้าทรงแผลงฤทธิ์ต่างๆ เสด็จไปยังดาวดึงส์เทวโลก ประทับเหนือบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ทรงจำพรรษาอยู่ ณ ดาวดึงส์นั้น ทรงแสดงพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ ธรรมาภิสมัยครั้งที่ 3 ได้มีแก่ทวยเทพหมื่นโกฏิ แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ก็ทรงมีการประชุมพระภิกษุขีณาสพผู้ปราศจากมลทิน ผู้มีจิตสงบระงับ คงที่ ครั้งเดียว ในกาลนั้นพระภิกษุขีณาสพผู้ล่วงโอฆะทั้งหลายและทำลายมัจจุราชแล้ว มาประชุมกันสามหมื่น
สมัยนั้น เราเป็นกษัตริย์พระนามว่าบรรพตถึงพร้อมด้วยมิตรและอำมาตย์ มีพลนิกายและพาหนะมากมาย เราไปเฝ้าพระสัมพุทธเจ้าได้ฟังธรรมอันยอดเยี่ยมแล้ว นิมนต์พระสงฆ์ พร้อมด้วยพระชินเจ้า ได้ถวายทานตามปรารถนา เราได้ถวายผ้าปัตตุณณะ ผ้าเมืองจีน ผ้าไหม ผ้ากัมพล และรองเท้าทอง แก่พระศาสดาและพระสาวก แม้พระมุนีพระองค์นั้น ก็ประทับนั่งท่ามกลางสงฆ์ตรัสพยากรณ์เราว่า ในภัทรกัปนี้ผู้นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลก … ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้น
เราได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้ว ก็ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง เราได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี 10 ประการให้ยิ่งขึ้นไป เราผู้อุดมกว่านรชน เมื่อแสวงหาพระสัพพัญญุตญาณ จึงให้ทาน ละราชสมบัติอันใหญ่หลวงบวชในพระสำนักพระชินเจ้า พระนครชื่อว่าโสภวดี พระบรมกษัตริย์พระนามว่าโสภะ ตระกูลใหญ่ของพระสัมพุทธเจ้าอยู่ในพระนครนั้น ยัญทัตตพราหมณ์เป็นพุทธบิดา นางอุตราพราหมณีเป็นพุทธมารดาพระองค์ครอบครองอาคารสถานอยู่สามหมื่นปี มีปราสาทอันประเสริฐ 3 ปราสาท ชื่อดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ มีนางสาวนารี หมื่นหกพันนาง ล้วนประดับประดาสวยงาม นางรุจิคุตตาพราหมณีเป็นภรรยา บุตรชายนามว่าสัตถวาหะ พระองค์ผู้เป็นอุดมบุรุษได้เห็นนิมิต 4 ประการ จึงออกบวชด้วยยานช้างยานพาหนะ บำเพ็ญเพียรอยู่ 6 เดือน พระโกนาคมนมหาวีรเจ้า นายกของโลก ผู้อุดมกว่านรชน อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักรที่มฤคทายวัน ทรงมีพระภิยโยสเถระ และพระอุตรเถระเป็นพระอัครสาวก พระเถระชื่อว่าโสตถิชะเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก พระสมุททาเถรีและพระอุตราเถรีเป็นพระอัครสาวิกา ไม้โพธิพฤกษ์ของพระองค์เรียกชื่อว่า ไม้มะเดื่อ อุคคอุบาสกและโสมเทวอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก สีวลาอุบาสิกาและสามาอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น มีพระองค์สูง 30 ศอก ประดับด้วยพระรัศมีเปล่งปลั่ง ดังทองที่ปากเบ้า พระองค์มีพระชนมายุในขณะนั้นสามหมื่นปี ทรงดำรงอยู่เท่านั้น ทรงช่วยให้ประชุมชนข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย ทรงยกธรรมเจดีย์อันประดับด้วยผ้าคือธรรมขึ้นแล้ว ทรงร้อยพวงดอกไม้คือธรรมเสร็จแล้ว เสด็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวก พระองค์มีพระลีลาอันใหญ่มีธรรมอันเป็นสิริเป็นเครื่องปรากฏ สิ่งทั้งปวงหายไปหมดแล้ว สังขารทั้งปวงว่างเปล่าหนอ พระโคนาคมนสัมพุทธเจ้า เสด็จนิพพาน ณ ปัพพตาราม พระธาตุของพระองค์แผ่กว้างไปในประเทศนั้นๆ ฉะนี้แล.
จบโกนาคมนพุทธวงศ์ที่ 23
ที่มา: พระไตรปิฎกเล่มที่ 33 (ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2 พุทธวงศ์-จริยาปิฎก)
ฉายา : ผู้หักเสียซึ่งข้าศึกคือกิเลส
ความสูง : 30 ศอก
รัศมี : แผ่ซานออกไปหาประมาณมิได้
บำเพ็ญบารมี : บำเพ็ญบารมีครบถ้วน
วรรณะ : พราหมณ์
พุทธบิดา : พระเจ้ายสวา
พุทธมารดา : พระนางยโสธราเทวี
พระนคร : โสภวดี
ใช้ชีวิตฆราวาส : 10,000 ปี
มเหสี : รุจิคุตตาพราหมณี
บุตร : สัตถวาหะ
ยานพาหนะที่ใช้ออกบวช : ขี่ช้างออกบวช
ระยะเวลาการทำความเพียร : 6 เดือน จึงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ต้นไม้ตรัสรู้ : ที่โคนต้นอุทุมพร (ต้นมะเดื่อ)
อายุขัย : 30,000 ปี จึงปรินิพพาน ณ ปัพพตาราม
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250