เป็นพระพุทธรูปทรงยืน พระหัตถ์ทั้งสอง ห้อยลงมาประสานอยู่หน้าพระเพลา แสดงอาการก้าวเดินจงกรม พระเนตรทอดต่ำลง มา อยู่ในอาการสำรวม เห็นปั๊บก็รู้ว่า “กำลังเดิน”
ในสัปดาห์ที่ ๓ หลังตรัสรู้ พระพุทธเจ้า ทรงถอยจากจุดที่ทรงยืนจ้องต้นพระศรีมหาโพธิ์ เข้ามาอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างต้นพระศรีมหา โพธิ์กับอนิมิสสเจดีย์ ทรงเสด็จจงกรมไปมา อยู่ตลอดเจ็ดวัน
จงกรม แปลตามศํพท์ว่า เดินธรรมดานี่แหละ แต่นำมาใช้เรียกการเดินช้าๆ และเดินกลับไปกลับมาด้วย จุด ประสงค์ของการเดินจงกรม การที่พระพุทธองค์ทรงทำอย่างนี้ก็เท่า กับ บอกนัยสำคัญดังนี้
๑. เน้นย้ำเรื่อง “สายกลาง”
๒. การพักผ่อน การทำเช่นนี้เป็นการ “พักผ่อนที่มิได้พักผ่อน” หรือการ “ไม่พักผ่อนที่เป็นการพักผ่อน”
ผมว่านี้คือ “รหัสนัย” ที่พึงไขให้แจ้งชัด พระพุทธศาสนาสอนให้เห็น ความสำคัญของกาลเวลา ไม่พึงปล่อยกาลเวลาให้ล่วงไปเปล่า โดยมิ ได้ ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ หายใจเข้าออกทุกวินาที ให้ถือประโยชน์ จากการหายใจให้ได้ ทุกการเคลื่อนไหว ทุกอิริยาบถ ควรจะเป็น เครื่องมือ หรือสื่อแห่งการปฏิบัติธรรม
เพราะฉะนั้นในการฝึกสมาธิวิปัสสนา นอกจากจะให้นั่งแล้ว ยังให้ เดินจงกรมด้วย ถือเป็นส่วนหนึ่งแห่งการฝึกปฏิบัติ
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250