วันนั้น พระสาวกทั้งหลายคงเดินทางมุ่งหน้ามายังพระเวฬุวันเพื่อ เฝ้าพระพุทธเจ้า หลังจากเดินทางไปเผยแพร่พระศาสนายังต่าง เมือง ท่านเหล่านั้นคงมิได้นัดหมายกันจริง ตามที่มีผู้สันนิษฐานกัน เมื่อองค์ประกอบทั้ง ๔ ประการมาบรรจบกันเข้า ทำให้ เห็นเป็น อัศจรรย์ คือ ๑. พระสาวกของพระพุทธเจ้า มาประชุมกันที่พระ- เวฬุวัน จำนวน ๑,๒๕๐ รูป โดยมิได้นัดหมายกันมาก่อน ๒. ท่าน เหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุ (พระพุทธเจ้าทรงบวชให้เอง) ๓. ท่าน เหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ทรงอภิญญา ๔. วันนั้นเป็นวัน พระจันทร์เสวยฤกษ์มาฆะพอดี
การประชุมใหญ่ของพระสาวก อันประกอบด้วยเหตุการณ์สำคัญทั้ง ๔ นี้เรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าเป็นนิมิต หมายอันดี จึงประทานโอวาทปาติโมกข์ (คำสอนที่เป็นหลักสำคัญ) ให้พระสาวกเหล่านั้น : (๑)ความอดทนคือความอดกลั้น เป็นธรรม เผากิเลสอย่างยิ่ง (๒) นิพพาน ท่านผู้รู้กล่าวว่าเป็นธรรมสูงสุด (๓)ผู้ ยังทำร้ายผู้อื่นอยู่ไม่นับเป็นบรรพชิต (๔) ผู้ยังเบียดเบียนผู้อื่นอยู่ ไม่ นับเป็นสมณะ (๕) การไม่ทำบาปทั้งปวง (๖) การทำความดีให้พร้อม (๗) การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย (๘) การไม่ว่าร้ายเขา (๙) การไม่ทำร้ายเขา (๑๐) การระมัดระวังในระเบียบข้อบังคับ (๑๑) การรู้ประมาณในการบริโภค (๑๒) การนั่งนอนในสถานที่สงัด (๑๓) การฝึกสมาธิจิตอย่างสูงยิ่ง นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250