เมื่อพระพุทธเจ้าทรงจำพรรษาตลอดสาม เดือน บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว ทรงออก พรรษาแล้ว เสด็จลงยังมนุษย์โลก ณ เมือง สังกัสสะ แคว้นภัคคะ ในวันมหาปวารณา ประชาชนต่างก็พากันมาชุมนุมกัน เพื่อเฝ้า พระพุทธองค์ สถานที่นี้เรียกว่า เทโวโรหนะ อยู่ที่อุตตรประเทศ ตามที่พระเจ้าอโศก มหาราชบันทึกบอกไว้ให้ปรากฏเป็นหลัก ฐานมาจนปัจจุบันนี้
เมื่อถึงเวลา พระพุทธองค์ก็เสด็จลงมาทาง บันไดแก้ว แวดล้อมไปด้วยเหล่าเทวดา อัน มีท้าวสักกะมหาราชเป็นประธานตามเสด็จ ทางบันไดทองด้านขวา และท้าวสหัมบดี- พรหมกับหมู่พรหมทั้งหลายตามเสด็จลงมา ทางบันไดเงินด้านซ้าย
พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดประชาชนที่มาเผ้าโดยทั่วหน้ากัน ทรงทำปาฏิหาริย์เปิดโลก (โลกวิวรณปาฏิหาริย์) คือทรง บันดาลให้พรหม เทวดา มนุษย์ สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน มองเห็น กันไม่มีอะไรปิดบัง
เรื่องราวตรงนี้ เกิดพระพุทธรูปสามปางด้วย กัน คือ
๑. ปางลีลา มักจะเป็นพระพุทธรูปทรงยืน ยกส้นพระบาทขวา ขึ้นจากพื้น ปลายพระบาทยังจรดอยู่กับพื้น อยู่ในท่าจะก้าวย่าง ดำเนิน พระหัตถ์ขวาห้อยอยู่ในท่าไกว พระหัตถ์ซ้ายยกเสมอพระ อุระ ตั้งฝ่าพระหัตถ์ป้องไปข้างหน้าเป็นกิริยาเดิน (บางรูปยกพระ หัตถ์ขวาก็มี) ดูพระพุทธรูปที่ พุทธมณฑลเป็นตัวอย่าง
๒. ปางเปิดโลก อยู่ในพระอิริยาบถยืน ห้อยพระหัตถ์ซ้ายขวา ปกติ เหมือนปางทรงยืน แต่แบฝ่าพระหัตถ์หันออกไปข้างหน้า เป็น กิริยาเปิด (ที่ทำเป็นแบบยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นก็มี)
๓. ปางเทโวโรหนะ หรือปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ดังที่กล่าวถึง ข้างต้น พระพุทธรูปปางนี้ เป็นที่นิยมในหมู่ชาวพุทธมาก ภาพจิตร- กรรมฝาผนังที่ศิลปินทุกยุคทุกสมัย จะวาดเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้แทบ ทั้งนั้น และสวยงามวิจิตรตระการตาเป็นอย่างยิ่ง
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250