ป่าทึบแห่งหนึ่งใกล้เมืองอาฬวี มียักษ์กินคนอาศัยอยู่ วันหนึ่งพระเจ้า กรุงอาฬวี ไปล่าสัตว์พลัดหลงกับข้าราชบริพารเข้าป่าทึบไปพระองค์ เดียว ถูกยักษ์นามว่าอาฬวกะจับไว้ พระเจ้ากรุงอาฬวี จึงขอร้องให้ ยักษ์ปล่อยไปเถอะ ถ้าปล่อยไป จะหาคนมาให้ยักษ์กินวันละคน ยักษ์ จึงปล่อยตัวไป พระเจ้ากรุงอาฬวีรักษาสัญญา ส่งนักโทษไปวันละคน จนกระทั่งหมดคุก ก็สั่งให้อำมาตย์ดักจับลูกเด็กเล็กแดงใครก็ได้ส่งไป ให้ยักษ์
พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยพระญาณ จึงเสด็จไป ยังที่อยู่ของอาฬวกยักษ์ ด้วยพุทธานุภาพ ยักษ์มีจิตใจอ่อนโยนลง แล้ว พอจะรับฟังเหตุผลได้ พระพุทธองค์จึงทรงค่อยๆ สอนทีละ นิดๆ ให้ยักษ์ สะกิดใจคิด ยักษ์พิจารณาตามพระพุทธดำรัส เห็นจริง ตามนั้นด้วย จึงยอมขอขมาพระพุทธองค์ที่ได้ล่วงเกิน แล้วเปล่ง วาจาถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
พระพุทธรูปปางนี้ คงไม่แพร่หลายนัก แต่เรื่องค่อนข้างแพร่หลาย เพราะเป็นตอนหนึ่งของพุทธชัยมงคล ๘ ประการของพระพุทธเจ้า พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถนั่งสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางที่ พระชานุ พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ จีบนิ้วพระหัตถ์เป็นท่า แสดงธรรม
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250