Language
 - 
Afrikaans
 - 
af
Albanian
 - 
sq
Amharic
 - 
am
Arabic
 - 
ar
Armenian
 - 
hy
Azerbaijani
 - 
az
Basque
 - 
eu
Belarusian
 - 
be
Bengali
 - 
bn
Bosnian
 - 
bs
Bulgarian
 - 
bg
Catalan
 - 
ca
Cebuano
 - 
ceb
Chichewa
 - 
ny
Chinese (Simplified)
 - 
zh-CN
Chinese (Traditional)
 - 
zh-TW
Corsican
 - 
co
Croatian
 - 
hr
Czech
 - 
cs
Danish
 - 
da
Dutch
 - 
nl
English
 - 
en
Esperanto
 - 
eo
Estonian
 - 
et
Filipino
 - 
tl
Finnish
 - 
fi
French
 - 
fr
Frisian
 - 
fy
Galician
 - 
gl
Georgian
 - 
ka
German
 - 
de
Greek
 - 
el
Gujarati
 - 
gu
Haitian Creole
 - 
ht
Hausa
 - 
ha
Hawaiian
 - 
haw
Hebrew
 - 
iw
Hindi
 - 
hi
Hmong
 - 
hmn
Hungarian
 - 
hu
Icelandic
 - 
is
Igbo
 - 
ig
Indonesian
 - 
id
Irish
 - 
ga
Italian
 - 
it
Japanese
 - 
ja
Javanese
 - 
jw
Kannada
 - 
kn
Kazakh
 - 
kk
Khmer
 - 
km
Korean
 - 
ko
Kurdish (Kurmanji)
 - 
ku
Kyrgyz
 - 
ky
Lao
 - 
lo
Latin
 - 
la
Latvian
 - 
lv
Lithuanian
 - 
lt
Luxembourgish
 - 
lb
Macedonian
 - 
mk
Malagasy
 - 
mg
Malay
 - 
ms
Malayalam
 - 
ml
Maltese
 - 
mt
Maori
 - 
mi
Marathi
 - 
mr
Mongolian
 - 
mn
Myanmar (Burmese)
 - 
my
Nepali
 - 
ne
Norwegian
 - 
no
Pashto
 - 
ps
Persian
 - 
fa
Polish
 - 
pl
Portuguese
 - 
pt
Punjabi
 - 
pa
Romanian
 - 
ro
Russian
 - 
ru
Samoan
 - 
sm
Scots Gaelic
 - 
gd
Serbian
 - 
sr
Sesotho
 - 
st
Shona
 - 
sn
Sindhi
 - 
sd
Sinhala
 - 
si
Slovak
 - 
sk
Slovenian
 - 
sl
Somali
 - 
so
Spanish
 - 
es
Sundanese
 - 
su
Swahili
 - 
sw
Swedish
 - 
sv
Tajik
 - 
tg
Tamil
 - 
ta
Telugu
 - 
te
Thai
 - 
th
Turkish
 - 
tr
Ukrainian
 - 
uk
Urdu
 - 
ur
Uzbek
 - 
uz
Vietnamese
 - 
vi
Welsh
 - 
cy
Xhosa
 - 
xh
Yiddish
 - 
yi
Yoruba
 - 
yo
Zulu
 - 
zu

พระสิขีพุทธเจ้า

zB

พระสิขีพุทธเจ้า

พระองค์ที่ 24

พระสิขีพุทธเจ้า

พระสิขีพุทธเจ้า

สิขีพุทธวงศ์ที่ 20

ว่าด้วยพระประวัติพระสิขีพุทธเจ้า

 

สมัยต่อมาจากพระวิปัสสีสัมพุทธเจ้า พระสัมพุทธเจ้าผู้สูงสุดกว่าสัตว์ ผู้ไม่มีบุคคลเปรียบเสมอ มีพระนามว่าสิขี ทรงย่ำยีมารและเสนามารแล้ว ทรงบรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม ทรงประกาศพระธรรมจักร เพื่ออนุเคราะห์แก่สัตว์ทั้งหลาย เมื่อพระสิขีชินเจ้าผู้ประเสริฐ ทรงประกาศพระธรรมจักร ธรรมาภิสมัยครั้งที่ 1 ได้มีแก่สัตว์แสนโกฏิ เมื่อพระองค์ผู้ประเสริฐกว่าหมู่คณะ สูงสุดกว่านรชน ทรงแสดงธรรมอีก ธรรมาภิสมัยครั้งที่ 2 ได้มีแก่สัตว์เก้าหมื่นโกฏิ เมื่อพระองค์ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ในโลกพร้อมด้วยเทวโลกธรรมาภิสมัยครั้งที่ 3 ได้มีแก่สัตว์แปดหมื่นโกฏิ แม้พระสิขีบรมศาสดา ก็ทรงมีการประชุมพระภิกษุขีณาสพผู้ปราศจากมลทินมีจิตสงบระงับผู้คงที่ 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 พระภิกษุขีณาสพมาประชุมกันหนึ่งแสน ครั้งที่ 2 แปดหมื่น ครั้งที่ 3 เจ็ดหมื่น เปรียบเหมือนดอกปทุมอันเจริญในน้ำ น้ำเลี้ยงไว้ ฉะนั้น

 

สมัยนั้นเราเป็นกษัตริย์พระนามว่าอรินทมะ ได้ถวายข้าวและน้ำให้พระสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานฉันจนเพียงพอ ได้ถวายผ้าอย่างดีมากมายหลายโกฏิผืน ได้ถวายยานช้างอันประดับแล้ว แก่พระสัมพุทธเจ้า เราได้สร้างยานช้างให้เป็นของควรแก่สมณะแล้วนำเข้าไปถวาย เรายังฉันทะของเราซึ่งตั้งไว้มั่นเป็นนิตย์ให้เต็ม แม้พระพุทธสิขีผู้เป็นนายกชั้นเลิศของโลก พระองค์นั้นก็ทรงพยากรณ์เราว่า ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ ผู้นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลก ... ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้น

 

เราได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้ว ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง ได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี 10 ประการให้ยิ่งขึ้นไป พระนครชื่อว่าอรุณวดี พระบรมกษัตริย์พระนามว่าอรุณ เป็นพระชนกของพระสีขีบรมศาสดา พระนางประภาวดีเป็นพระชนนีพระองค์ทรงครอบครองอาคารสถานอยู่เจ็ดพันปี ทรงมีปราสาทอันประเสริฐ 3 ปราสาท ชื่อสุวัฑฒกะ คิริ และนารีวาหนะ ทรงมีพระสนมนารีกำนัลในสองหมื่นสี่พันนาง ล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสีพระนามว่าสรรพกามา พระราชโอรสพระนามว่าอตุละ พระองค์ทรงเห็นนิมิต 4 ประการ จึงเสด็จออกผนวชด้วยคชสารยานพระที่นั่งต้น ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 8 เดือนเต็ม พระสิขีมหาวีรเจ้าผู้เป็นนายกชั้นเลิศของโลกอุดมกว่านรชน อันพรหมทูลอาราธนาแล้วทรงประกาศพระธรรมจักร ณ มฤคทายวัน ทรงมีพระอภิภูเถระ และพระสัมภวเถระเป็นพระอัครสาวก พระเถระชื่อว่าเขมังกรเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก พระมขีลาเถรีและพระปทุมาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา ไม้โพธิพฤกษ์ของพระองค์ เรียกกันว่า บุณฑริก [ไม้กุ่มบก] สิริวัฑฒอุบาสกและนันทอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐากจิตราอุบาสิกาและสูจิตราอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา

 

พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น มีพระองค์สูง 70 ศอก มีพระรัศมีเปล่งปลั่งดังทองคำล้ำค่า มีพระลักษณะอันประเสริฐ 32 ประการ พระรัศมี ของพระองค์ซ่านออกไปจากพระวรกายด้านละวาเนืองนิตย์ พระรัศมีนั้นเปล่งออกไปยังทิศน้อยทิศใหญ่ 3 โยชน์ พระองค์มีชนมายุเจ็ดหมื่นปี ทรงดำรงอยู่เท่านั้น ทรงช่วยให้ประชุมชนข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย พระองค์ทรงยังฝนคือธรรมให้ตก ยังมนุษย์พร้อมทั้งเทวดาให้ชุ่มชื่น ให้บรรลุความเกษมแล้ว เสร็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวกพระลักษณะอันประเสริฐ 32 ประการ อันสมบูรณ์ด้วยอนุพยัญชนะหายไปหมดสิ้นแล้ว สังขารทั้งปวงว่างเปล่าหนอ พระพุทธสิขีมุนีผู้ประเสริฐ เสด็จนิพพาน ณ อัสสาราม พระสถูปอันประเสริฐของพระองค์สูง 3 โยชน์ ประดิษฐานอยู่ ณ อัสสารามนั้น ฉะนี้แล.

จบสิขีพุทธวงศ์ที่ 20

ที่มา: พระไตรปิฎกเล่มที่ 33 (ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2 พุทธวงศ์-จริยาปิฎก)

 


 

ฉายา : ผู้เป็นศาสดาเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์
ความสูง : 70 ศอก
รัศมี : แผ่ซานออกไปไกล ๓ โยชน์
บำเพ็ญบารมี : บำเพ็ญบารมีครบถ้วน
วรรณะ : กษัตริย์
พุทธบิดา : พระเจ้าอรุณ
พุทธมารดา : พระนางปภาวดี
พระนคร : อรุณวดี
ใช้ชีวิตฆราวาส : 7,000 ปี
มเหสี : สรรพกามา
บุตร : อตุละ
ยานพาหนะที่ใช้ออกบวช : ทรงช้างออกบวช
ระยะเวลาการทำความเพียร : 8 เดือน จึงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ต้นไม้ตรัสรู้ : ที่โคนต้นปุณฑริก (ต้นกุ่มบก)
อายุขัย : 70,000 ปี จึงปรินิพพาน ณ อัสสาราม

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
post