ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านพระอุบาลีเถระ เป็นบุตรแห่งนายช่างกัลบก ในพระนครกบิลพัสดุ์ เดิมชื่อว่าอุบาลี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้เป็นที่เลื่อมใส เจริญพระหฤทัย แห่งเจ้าในศากยวงศ์ทั้งห้าพระองค์ ได้รับตำแหน่งเป็นนายภูษามาลาแห่งเจ้าศากยวงศ์นั้น ครั้นพระบรมศาสดา เสด็จมาโปรดพระประยูรญาติ ที่กรุงกบิลพัสดุ์แล้ว เสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ ไปประทับอยู่ที่อนุปิยนิคมอัมพวนาราม ของมัลลกษัตริย์ ครั้งนั้น ศากยกุมารห้าพระองค์ คือ ภัททิยะ อนุรุทธะ อานันทะ ภคุ และ กิมพิละ รวมเทวทัตต์ ซึ่งเป็นเจ้าในโกลิยวงศ์เข้าด้วยเป็น 6 เสด็จออกจากพระนคร ด้วยจาตุรงคเสนา เพื่อจะออกบวชในพระพุทธศาสนา อุบาลี เป็นนายภูษามาลา ได้ติดตามออกไปด้วย พากันไปเฝ้าพระบรมศาสดาที่อนุปิยนิคม แคว้นมัลละ ทูลขออุปสมบท ก่อนแต่จะอุปสมบท พวกเจ้าศากยะเหล่านั้น ทูลขอให้พระองค์บวชอุบาลี ผู้เป็นนายภูษามาลาก่อน พระองค์ก็ได้โปรดให้บวชอุบาลีก่อน เมื่อพระอุบาลีอุปสมบทแล้ว ได้ฟังพระกรรมฐาน ที่พระบรมศาสดาทรงสั่งสอน ท่านไม่ประมาท อุตส่าห์บำเพ็ญเพียร ไม่ช้าก็ได้สำเร็จพระอรหัตต์ ท่านได้ศึกษาทรงจำพระวินัยปิฎก แม่นยำชำนิชำนาญมาก เป็นผู้สามารถจะทำเรื่องราวอะไรซึ่งเกี่ยวด้วยวินัยได้เป็นอย่างดี ข้อนี้พึงเห็นตัวอย่างที่ท่านได้รับพระอนุญาต ให้เป็นผู้วินิจฉัยอธิกรณ์สามเรื่อง คือ ภารตัจฉกวัตถุ, อัชชุกวัตถุ, และกุมารกัสสปวัตถุ ด้วยเหตุนี้ท่านพระอุบาลีจึงได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้ทรงไว้ซึ่งพระวินัย(วินยธรานํยทิทํอุปาลิ) ภายหลัง เมื่อพระบรมศาสดานิพพานแล้ว ท่านพระมหากัสสปะเถระ ทำสังคายนาพระธรรมวินัย สงฆ์ได้เลือกท่านให้เป็นผู้วิสัชนาในส่วนพระวินัยปิฎก เพราะท่านเป็นผู้มีความสามารถในเรื่องนี้
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250