ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านพระอุปเสนเถระ เป็นบุตรของวังคันตพราหมณ์ มารดาชื่อนางสารีพราหมณี ในตำบลบ้านชื่อว่านาลันทะ แคว้นมคธ เดิมชื่อว่าอุปเสนมาณพ อีกอย่างหนึ่ง เรียกชื่อตามที่เป็นบุตรของวังคันตพราหมณ์ว่า อุปเสนวังคันตบุตร เป็นน้องชายของท่านพระสารีบุตร พระสารีบุตร มีพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกันถึงหกคน น้องชายสามคน คือ พระจุนทะ, พระอุปเสนะ และ พระเรวัตตะ, น้องหญิงสามคน คือ นางจาลา, นางอุปจารา, และนางสีสุปจารา รวมเป็นเจ็ดคน กับทั้งท่านพระสารีบุตร อุปเสนมาณพนั้น เจริญวัยแล้ว ได้ศึกษาไตรเพทตามลัทธิของพราหมณ์ ต่อมาได้ฟังพระธรรมเทศนา ในสำนักของพระบรมศาสดา เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงได้บรรพชาอุปสมบท ถือเพศเป็นบรรพชิต ทำกิจพระพุทธศาสนาตามหน้าที่ ครั้นท่านอุปเสนะบวชแล้ว มีพรรษาได้เพียงพรรษาเดียวเท่านั้น มาคิดว่าจะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญมากขึ้นด้วยหมู่พระภิกษุสงฆ์ จึงได้เป็นอุปัชฌาย์ อุปสมบทบวชกุลบุตร ภายหลังท่านพาศิษย์ของท่านไปเฝ้าพระบรมศาสดา ถูกพระบรมศาสดารุกรานว่าเป็นโฆษบุรุษ เป็นผู้มีความมักมาก เมื่อท่านกลับจากที่เฝ้าแล้ว จึงคิดว่าเราจะยังพระบรมศาสดาให้ตรัสสาธุการ เพราะอาศัยซึ่งบริษัทของเราให้จงได้ ครั้นคิดอย่างนั้นแล้ว ไม่ประมาท ตั้งใจเจริญซึ่งวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ช้าไม่นานก็ได้สำเร็จอรหัตผล ท่านประพฤติอยู่ในธุดงค์ 13 ประการ ตามตำนานปรากฏว่า ท่านได้เป็นอุปัชฌาย์บวชกุลบุตร จนมีสัทธิวิหาริกประมาณถึงห้าร้อยองค์ เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร ท่านได้พาสัทธิวิหาริกของท่าน ไปเฝ้าพระบรมศาสดาอีก ในครั้งนี้ พระบรมศาสดาทรงสาธุการแก่ท่านว่า สาธุ สาธุ อุปเสนะ ดูกรอุปเสนะ ดีละ ๆ ฉะนี้ สมตามความที่ท่านคิดไว้ พระองค์ได้ทรงแสดง ซึ่งคุณแห่งท่านพระอุปเสนะนั้น มีประการต่าง ๆ ในกลาต่อมา พระศาสดาประทับนั่งท่ามกลางหมู่พระอริยะ ทรงสถาปนาพระอุปวังคันตเถระ ไว้ในตำแหน่งยอดเยี่ยมของเหล่าภิกษุ ผู้นำความเลื่อมใสมาโดยรอบ(ในหมู่ชนทั้งชั้นสูงและชั้นต่ำ) ในพระศาสนา นี้ (สมนฺตปาสาทิกานํ)
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250