ท่านพระเมฆิยเถระ หาหลักฐานในด้านชาติภูมิยังไม่พบ มีหลักฐานแต่ในช่วง ที่ท่านได้อุปสมบทแล้ว ซึ่งท่านได้เคยเป็นผู้อุปัฏฐากพระบรมศาสดาองค์หนึ่งซึ่งมีในเรื่องอุทานมีความว่า ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ ณ จาลิกบรรพต ในกรุงจาลิกา ที่ท่านพระเมฆิยะเป็นอุปัฏฐาก วันหนึ่ง ท่านพระเมฆิยะ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลลาพระองค์ เข้าไปบิณฑบาตในชันตุคาม เมื่อได้รับพระพุทธานุญาตแล้ว เวลารุ่งเช้า ได้เข้าไปบิณฑบาตในบ้านนั้น เมื่อเวลากลับจากบิณฑบาต เดินมาตามริมฝั่งแม่น้ำกิมิกาฬา ได้เห็นสวนมะม่วง มีอากาศร่มเย็น เป็นที่น่ารื่นรมย์ใจ ใคร่จะกลับมาทำความเพียร ที่สวนนั้น
ครั้นกลับมาแล้ว จึงเข้าไปกราบทูลลาพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ตรัสห้ามว่า ดูก่อนเมฆิยะ เธอจงรอก่อน ดังนี้ถึง 3 ครั้ง ท่านพระเมฆิยะ ไม่เชื่อพัง กราบทูลลา แล้วลุกขึ้นจากอาสนะ ถวายบังคมพระองค์ แล้วหลีกไปบำเพ็ญเพียร อยู่ในสวนมะม่วงนั้น แต่หาได้สำเร็จมรรคผลอันใด สมตามความประสงค์ไม่ เพราะถูกวิตกสาม(กามวิตก,พยาบาทวิตก,วิหิงสาวิตก) เข้าครอบงำ จึงกลับมาเฝ้ากราบทูลเนื้อความนั้นให้พระองค์ทรงทราบ พระองค์จึงตรัสสอน วิธีระงับวิตกสามประการนั้น โดยชั้นต้น ตรัสสอนให้ตั้งอยู่ในธรรม 5 ประการคือ 1. เป็นผู้มีกัลยาณมิตร 2. เป็นผู้มีศีลสำรวมในพระปาฏิโมกข์ 3. เป็นผู้พูดวาจาเป็นสุภาษิต (วาจาที่ขัดเกลา คือพูดแล้วไม่นำมาซึ่งโทษ มีแต่จะนำมาซึ่งประโยชน์โดยส่วนเดียว) 4. เป็นผู้มีความเพียรบากบั่น 5. เป็นผู้มีปัญญา และตรัสให้เจริญธรรมอีก 4 อย่าง คือ อสุภะ เพื่อจะได้ละซึ่งราคะ, เมตตา เพื่อจะได้ละพยาบาท, อานาปานสติ เพื่อจะได้ตัดเสียซึ่งวิตกและอนิจจสัญญาเพื่อจะได้ถอนขึ้นเสียซึ่งอัสมิมานะ ท่านพระเมฆิยะ ตั้งอยู่ในโอวาทที่พระบรมศาสดา ทรงตรัสสั่งสอนไม่ประมาท อุตส่าห์บำเพ็ญเพียร ก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคล นับเข้าในพระสาวกผู้ใหญ่รูปหนึ่ง
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250