วัดเขาคอก จ.นครนายก
หลวงปู่สนธ์พระอริยะสงฆ์เจ้าภาคอีสาน
ความเป็นมาของหลวงปู่สนธ์. หลวงปู่สนธ์ท่านเป็นพระอาจารย์วิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาที่เป็นป่าดงดิบในภาคอีสานในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และท่านได้เดินธุดงค์มาปักกรดอยู่กับพระอาจารย์ลีที่ชายป่าเขตนครนายก เมื่อหลวงปู่สนธ์กับพระอาจารย์ลีนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ ปรากฏว่ามีเสือโค่รงตัวใหญ่เดินเข้ามาที่กรดของท่านวนสามรอบ หลวงปู่สนธ์ตกใจมากแต่พระอาจารย์ลี บอกให้สงบนิ่งแล้วแผ่เมตตา และเสือตัวนั้นก็เดินเข้าป่าไป
ต่อมาพระอาจารย์ลีได้ชวนให้หลวงปู่สนธ์ไปปักกรดที่วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เนื่องจากหลวงปู่สนธ์กับพระอาจารย์ลีเป็นพระสหธรรมร่วมกันเดินธุดงค์แล้วนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานกันมา หลวงปู่สนธ์ท่านบอกว่าชอบพื้นที่บริเวณนี้ท่านขอไม่ไปวัด อโศการาม และต่อมามีชาวบ้านได้ออกมาหาของป่าก็พบเห็นว่าพระภิกษุปักกรดในป่าจะมีข้าวหรืออาหารอะไรฉัน ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงปู่สนธ์เดินทางไปรับบาตรภายในหมู่บ้านแล้วหลวงปู่สนธ์ได้เดินทางไปจำพรรษาอยู่ในถ้ำพุทธฉาย (ปัจจุบันคือโรงเรียนจปร.)
ต่อมาหลวงปู่สนธ์ได้มาสร้างวัดเล็กๆขึ้นมาคือวัดเขาคอก แต่เมื่อหลวงปู่สนธ์ออกมาจากถ้ำพุทธฉายแล้วเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น หินถล่มลงมาปิดปากถ้ำและชาวบ้านเชื่อกันว่าภายในถ้ำพุทธฉายคงมีทรัพย์สินของทหารญี่ปุ่นซ่อนอยู่ในถ้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
และต่อมาหลวงปู่สนธ์ก็มรณภาพลงในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2532 ด้วยอายุ 97 ปี แต่สังขารไม่เน่าและแข็งกลายเป็นหิน แต่พระอาจารย์ณรงค์ชัยท่านบอกว่าหลวงปู่สนธ์เคยบอกว่าเรายังไม่ตายเพียงแต่สังขารเสื่อมไปก่อน ดังนั้นทางวัดเขาคอกจึงพบเห็นงูเห่าตัวใหญ่มากในวันที่ 24 มีนาคม 2547 งูเห่าเข้ามาที่กุฏิแล้วเคาะกระจกมีพระอาจารย์ณรงค์ชัยรวมถึงพระสงฆ์และสามเณรและญาติโยมที่มาทำบุญเห็นงูเห่ากันทั่วก็ตกใจ แต่งูเห่าตัวนั้นไม่ทำร้ายใครแล้วก็เข้าป่าไป เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสองครั้ง พระอาจารย์ณรงค์ขัย เชื่อว่าหลวงปู่สนธ์ท่านเดินทางมาในร่างกายของงูเห่า มาเยี่ยมชมภายในวัดเขาคอก นี่คือความเชื่อของวัด
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250