วัดถ้ำยายปริก อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
“พระเถระที่มีเมตตาธรรมสูง”
เกิดในสกุลคำประเสริฐ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. 2466 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้ายปีกุน ที่บ้านคอน อ.มะโนไพร แขวงนครจำปาสัก ประเทศลาว ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย และตัดเย็บเสื้อผ้า ต่อมาบิดาแยกทางกับมารดา ภายหลังบิดาจึงรับไปอยู่ด้วย แต่ไม่นานบิดาถึงแก่กรรม ปู่จึงรับไปอยู่ที่วัดเหนือ บ้านคอน โดยเริ่มเป็นเด็กวัดตอนอายุย่าง 15 ปี ต่อมาบรรพชาได้ 1 ปี มารดาก็ล้มป่วยและถึงแก่กรรม พออายุได้ 18 ปี ท่าน เล่าเรียนนักธรรมตรีที่ อ.มะโนไพร
พ.ศ.2485 ลาสิกขาและออกไปทำงานที่บ้านนายอำเภอศิริ ศิริแพทย์ ที่ จ.บุรีรัมย์จนกระทั่งปีพ.ศ.2489 นายอำเภอย้ายไปทำงานที่ จ.ระยอง และบรรจุท่านเป็นเสมียนปกครอง พนักงานสอบสวนวิสามัญ แต่อกหักจากความรัก จึงขอนายอำเภอย้ายไปทำงานที่ จ.ชลบุรี รับราชการอยู่ 3 ปีจึงลาออก
ในช่วงนี้ใช้ชีวิตการประกอบอาชีพค้าขาย แต่พอเริ่มจะตั้งตัวได้ก็มีเหตุต้องเสียทรัพย์ เช่น ถูกขโมย ไฟไหม้ ราคาผลผลิตตกต่ำ กระทั่งถึงขั้นถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปีครั้นได้รับอิสรภาพท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ขณะมีอายุ 46 ปี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2512 ณ วัดนิมมานราษฎร์บำรุง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี มีพระครูพิบูลสังฆกิจ เจ้าคณะตำบลคลองกิ่ว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการสวิน อินทวังโส วัดศรีอรุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการสมาน รตินธโร วัดนิมมานราษฎร์บำรุง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ฝึกสมาธิภาวนา ศึกษาอยู่ที่วัดนิมมานราษฎร์บำรุง ได้ผลต่างๆ เกิดความสงสัยอารมณ์นี้ว่าถูกผิดอย่างไร ซึ่งมีผู้แนะให้ไปสอบอารมณ์ที่สำนักของพระอาจารย์บุญมี เมธางกูร สาขาของวัดพระเชตุพนฯ
ครั้งหนึ่งออกจาริกวิเวก ได้พบกับ หลวงพ่อม่น วัดเนินตามาก และหลวงพ่อเอื้อน จ.นครสวรรค์ ที่ถ้ำจักรพงษ์ เกาะสีชังภายหลังได้ย้ายไปจำพรรษาที่ต่างๆ และได้จาริกไปภาคอีสานถึงแม้จะออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ แต่ท่านก็มักกลับมาจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำยายปริกเสมอ พบว่าที่บริเวณถ้ำยายปริกเป็นสถานที่เหมาะสมแก่การเจริญสมณธรรม จึงมัก จะมาจำพรรษาที่นี่เป็นหลัก ยกเว้นปีที่ท่านไป จำพรรษาที่อื่น หลวงพ่อประสิทธิ์ได้เปิดอบรมปฏิบัติภาวนา แก้ไขข้อข้องใจในการปฏิบัติแก่ผู้สนใจที่วัดถ้ำยายปริก
บรรยายธรรมโอวาทครั้งหนึ่งว่า “ไม่ว่าพระไม่ว่าชี หรืออุบาสกอุบาสิกา ต้องหมั่นเจริญสติปัฏฐาน 4 ให้แน่นแฟ้น ครั้นเจตสิกดับ หมดความปรุงแต่งในผัสสะด้วยเห็นความจริงในการเกิดดับของทุกสภาวะ และเห็นรูปนามเป็นอารมณ์โดยอัตโนมัติทุกขณะไป แค่นี้ก็ไปอยู่สุทธาวาสแล้ว ไม่ต้องมาแบกหามสภาวะความเป็นมนุษย์ให้วุ่นวายอย่างนี้อีก และเมื่อเจริญต่อไป จนเห็นพิษภัยของรูปนามทั้งหมด จึงปล่อยวางรูปนาม ก็เข้าถึงความว่างที่แท้จริง เป็นอนัตตา และมหาสุญญตา ก็หมดเรื่องหมดราว มีอยู่แค่นั้นเอง”คนทั่วไปยกย่องเป็นพระอาจารย์สาย กัมมัฏฐานที่มีเมตตาสูงแห่งเกาะสีชัง จ.ชลบุรี
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2550 หลวงพ่อประสิทธิ์มรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลชลบุรี สิริอายุ 84 ปี พรรษา 38 คณะศิษย์นำสรีรสังขารบรรจุ ในโลงเก็บศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัด
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250