Language
 - 
Afrikaans
 - 
af
Albanian
 - 
sq
Amharic
 - 
am
Arabic
 - 
ar
Armenian
 - 
hy
Azerbaijani
 - 
az
Basque
 - 
eu
Belarusian
 - 
be
Bengali
 - 
bn
Bosnian
 - 
bs
Bulgarian
 - 
bg
Catalan
 - 
ca
Cebuano
 - 
ceb
Chichewa
 - 
ny
Chinese (Simplified)
 - 
zh-CN
Chinese (Traditional)
 - 
zh-TW
Corsican
 - 
co
Croatian
 - 
hr
Czech
 - 
cs
Danish
 - 
da
Dutch
 - 
nl
English
 - 
en
Esperanto
 - 
eo
Estonian
 - 
et
Filipino
 - 
tl
Finnish
 - 
fi
French
 - 
fr
Frisian
 - 
fy
Galician
 - 
gl
Georgian
 - 
ka
German
 - 
de
Greek
 - 
el
Gujarati
 - 
gu
Haitian Creole
 - 
ht
Hausa
 - 
ha
Hawaiian
 - 
haw
Hebrew
 - 
iw
Hindi
 - 
hi
Hmong
 - 
hmn
Hungarian
 - 
hu
Icelandic
 - 
is
Igbo
 - 
ig
Indonesian
 - 
id
Irish
 - 
ga
Italian
 - 
it
Japanese
 - 
ja
Javanese
 - 
jw
Kannada
 - 
kn
Kazakh
 - 
kk
Khmer
 - 
km
Korean
 - 
ko
Kurdish (Kurmanji)
 - 
ku
Kyrgyz
 - 
ky
Lao
 - 
lo
Latin
 - 
la
Latvian
 - 
lv
Lithuanian
 - 
lt
Luxembourgish
 - 
lb
Macedonian
 - 
mk
Malagasy
 - 
mg
Malay
 - 
ms
Malayalam
 - 
ml
Maltese
 - 
mt
Maori
 - 
mi
Marathi
 - 
mr
Mongolian
 - 
mn
Myanmar (Burmese)
 - 
my
Nepali
 - 
ne
Norwegian
 - 
no
Pashto
 - 
ps
Persian
 - 
fa
Polish
 - 
pl
Portuguese
 - 
pt
Punjabi
 - 
pa
Romanian
 - 
ro
Russian
 - 
ru
Samoan
 - 
sm
Scots Gaelic
 - 
gd
Serbian
 - 
sr
Sesotho
 - 
st
Shona
 - 
sn
Sindhi
 - 
sd
Sinhala
 - 
si
Slovak
 - 
sk
Slovenian
 - 
sl
Somali
 - 
so
Spanish
 - 
es
Sundanese
 - 
su
Swahili
 - 
sw
Swedish
 - 
sv
Tajik
 - 
tg
Tamil
 - 
ta
Telugu
 - 
te
Thai
 - 
th
Turkish
 - 
tr
Ukrainian
 - 
uk
Urdu
 - 
ur
Uzbek
 - 
uz
Vietnamese
 - 
vi
Welsh
 - 
cy
Xhosa
 - 
xh
Yiddish
 - 
yi
Yoruba
 - 
yo
Zulu
 - 
zu

ไท้เสียงเหล่ากุง

โซนที่ ๙ มหายาน

ไท้เสียงเหล่ากุง

ไท้เสียงเหล่ากุง

ไท้เสียงเหล่ากุง (ไท้ซังเหล่าจวิน :จีนกลาง) เจ้าสำนักศาสดาเต๋า อาจารย์ของเหล่าโป๊ยเซียนนั้น  เดิมแซ่ลี้ ชื่อยื้อ มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์โจว (เมื่อประมาณ 4 พันกว่าปีก่อน)  เกิดที่หมู่บ้านล่าย อำเภอขู่ แคว้นฉู่ หรือ เล่าจื้อ เป็นศาสดาของศาสนาเต๋า ซึ่งได้หล่อหลอมวิถีแห่งชีวิตและ

อัธยาศัยชาวจีนกว่า 2000 ปีมาแล้ว     ซึ่งตามประวัติแล้ว องค์ไท้เสียงเหล่ากุง เป็นเทพเบื้องบนลงมาจุติ โดยมารดาของท่านนั้น ตอนอายุ 19 ปี ได้ไปวิ่งเล่นในสวนเห็นผลลี้เข้า จึงเด็ดลงมารับประทาน หลังจากนั้นท่านก็เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาองค์ไท้เสียงเหล่ากุง อยู่ในครรภ์มารดาของท่านถึง 81 ปี ซึ่งในระหว่างนั้น ท่านสามารถพูดจาสื่อสารโต้ตอบกับมารดาได้ ตลอด มารดาท่านเองก็ถามท่านว่า “ทำไมถึงไม่ยอมออกมาซักที” ท่านก็ตอบไปว่า หากท่านออกมา มารดาจะต้องเสีย ชีวิตเป็นแน่แท้ ถึงกระนั้นมารดาของท่านก็ยืนกรานให้ท่านออกมา หากมารดาจะต้องเสียชีวิต มารดาก็ยอม องค์ไท้เสียง เหล่ากุง จึงได้ตกฟากออกมาทางใต้รักแร้ซ้ายของมารดา เป็นคนที่มีผมขาวโพลนทั้งศีรษะ และได้ชื่อว่า “เหลาจื้อ” ซึ่ง แปลว่า คนแก่เฒ่า

นานมาแล้ว เมื่อท่านเล่าจื้อเกิดความเบื่อหน่ายในราชการบ้านเมือง ที่เหล่าเจ้าแคว้นล้วนปรารถนาที่จะเป็นเอกกว่าทุกแคว้น ขณะที่เหล่าข้าราชสำนักทุจริต วิ่งเต้นหวังอำนาจวาสนา เหล่าประชาถูกกดขี่อย่างไร้การโต้แย้ง แม้เล่าจื้อเคยทัดทานหลายครั้ง แต่มันก็เหมือนเศษธุลี หามีผู้ใดสำเหนียก หลายคนมุ่งนึกถึงแต่ตัวเอง ส่วนเจ้าแคว้นปรารถนาให้ตนยืนยงตราบชั่วดินฟ้า มุ่งแสวงหาแต่ความเป็นอมตะ คุณธรรมถูกละเลย และจะอยู่ไปใยสู้เดินทางไปในที่ๆ แสนไกลกับเพื่อนรู้ใจสักคน จิบชาเขียนภาพขับลำนำ แสวงหาจุดหมายที่สุขแห่งชีวิต อีกทั้งหากมีแคว้นใดเจ้าแคว้นมีคุณธรรมรักราษฎร์ ที่นั้นเล่าจื้อจะได้นำความคิดที่สั่งสมมาถ่ายทอดให้ อย่างน้อยวาจายังมีค่ากับคนฟัง

ครั้งนั้นว่ากันว่า เล่าจื้อขี่กระบือเขียวผ่านด่านฮ่ำก๊กกวง มุ่งหน้าออกนอกด่านตะวันตก จุดหมายหนึ่งเพื่อจะเผยแผ่หลักปรัชญาที่สั่งสมมา เพื่อเสาะหาอาณาจักรที่แสนไกลในที่ราบสูงธิเบตมองโกล และที่ด่านแห่งนี้ท่านเล่าจื้อได้ถ่ายทอด “เต๋าเต็กเก็ง” เป็นอักษรห้าพันคำให้นายด่านนาม “อีฮี้” และอีกจุดมุ่งหมายคือดินแดนชมพูทวีป ที่ว่ากันว่าเป็นดินแดนแห่งผู้รู้ นักปราชญ์นักคิดและแสวงหาความหลุดพ้นกระบือนี้เดิมมีสีเขียวนามว่า “แชวู้” แม้มีความมานะอดทนแต่ก็มีความคิดเป็นของตัวเองสูง จนบางครั้งหลายคนว่ามันโคตรดื้อ บ้างก็ว่าโคตรโง่ การที่เล่าจื้อขี่กระบือเขียวท่อง

เที่ยวไปพร่ำบ่นหลักปรัชญา ล้วนซึมซับหลักการไปไม่มากก็น้อย และดูจะเป็นผู้เดียวที่เข้าใจหลักการของเล่าจื้อมากที่สุดยิ่งกว่าศิษย์ที่เป็นมนุษย์ อีกทั้ง “แชวู้” แม้ขี้บ่นแต่ไม่เคยทำให้ลำบากใจเลยไปไหนไปกัน แต่ “แชวู้” แม้หล่อเหลากว่ากระบือทั้งปวง แต่ว่ากันว่าเธอมีเขาเดียว บ้างก็ว่าเธอดื้อมีกำลังมากสร้างความเดือดร้อนในโลกมนุษย์และสวรรค์ ทำให้เล่าจื้อต้องกำราบโดยตัดเขาออกหนึ่งข้าง ทำให้ “แชวู้” เชื่องและเป็นพาหนะของเล่าจื้อ แต่แท้จริงแล้วเล่าจื้อแรกพบ “แชวู้” ก็มีเขาเจริญเพียงข้างเดียวนับว่าแปลกมาก อีกทั้ง “แชวู้” เฉลียวฉลาดมาก เล่าจื้อเพ่งด้วยฌานทราบว่า “แชวู้” เป็นบริวารที่ติดตามมานานแล้ว และมีวาสนาที่ซึมซับหลักปรัชญาแห่งเล่าจื้อไม่มีสอง ดังนั้นภพชาตินี้ที่ติดตามมาเป็นเพื่อนผู้รู้ใจ และฝักใฝ่เล่าจื้อเป็นหนึ่งไม่มีสอง ไม่ว่าบนฟ้าหรือใต้ฟ้า

แม้ว่าเรามีวาสนาได้พบพานองค์ไท้เสียงเล่ากุงแล้ว จะไม่มีครั้งใดที่จะไม่พบพานกระบือเขียวรูปงามท่านนี้ และท่านดูจะพอใจในความเป็นกระบือเขียวรูปงาม มากกว่าจะทำให้เราพบในสภาพอื่น แสดงถึงความแน่วแน่เป็นหนึ่งไม่มีสองซึ่งดีกว่ามนุษย์ทั้งหลาย ที่เปลี่ยนสีกายโดยฉับพลันอย่างไม่ละอาย เดี๋ยวเป็นนั่นเป็นนี่ ไม่มีความอดทนไร้ซึ่งยางอายุ

 

แหล่งที่มา : https://waijao.wordpress.com/2012/01/06/61/ 

 

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
post