พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมอันเลิศเลอ เป็นศาสดาของโลกทั้งสามได้ ท่านตรัสรู้ธรรม ธรรมที่เลิศเลอในเบื้องต้นก็ไม่มีใครค้นพบ มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นทรงค้นพบ แล้วนำมาชี้แจงแก่บรรดาสัตว์ทั้งหลาย มีภิกษุบริษัทเป็นต้น แนะนำสั่งสอนด้วยธรรมชั้นเอกนั้นให้ผู้ปฏิบัติบำเพ็ญได้ความรู้ ความเห็น ได้คติเครื่องเตือนใจ จนสามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ตั้งแต่สมณะที่ ๑ ถึงสมณะที่ ๔ คืออรหัตบุคคล สมณะทั้ง ๔ ประเภทนี้ไม่ได้สูญสิ้นไปจากพุทธศาสนาของเราทั้งหลายที่เทิดทูนอยู่เวลานี้ อกาลิโก การปฏิบัติบำเพ็ญของผู้มุ่งอรรถมุ่งธรรมทั้งหลายยังมีอยู่ มรรคผลนิพพานหรืออริยบุคคลทั้ง ๔ ประเภท หรือ สมณะ ๔ ประเภทนี้ย่อมเป็นเงาเทียมตัว ต้องได้รับมรรค รับผลเป็นลำดับลำดามา จึงสมชื่อสมนามว่าศาสดาองค์เอก
เพราะฉะนั้นพระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาที่ทรงมรรคทรงผลตลอดมา นับแต่ครั้งพุทธกาลมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ และยังจะทรงมรรคทรงผลแก่ผู้ปฏิบัติตลอดไป สมนามในพระธรรมว่า อกาลิโก ไม่มีกาล สถานที่ เวล่ำ เวลาใดที่จะมาเป็นอุปสรรคกีดขวาง หรือลบล้างได้เลย เมื่อมีผู้ปฏิบัติตามศาสนธรรมอยู่ มรรคผลนิพพานต้องเป็นเงาเทียมตัวของการปฏิบัติแห่งรายนั้น ๆ จะพึงเป็นผู้ได้รับสมบัติ คือ ธรรมสมบัติ การบำเพ็ญธรรมก็ให้บำเพ็ญด้วยความจงอกจงใจ ประหนึ่งว่ามรรคผลนิพพานนี้อยู่ตรงหน้าของเรา อยู่ชั่วเอื้อม ๆ สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นทางก้าวเข้าสู่มรรคผลนิพพาน เป็นอย่างนี้มาตลอดเวลา
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250